Facebook
Twitter
LINE

รู้จัก “แฟนต้า” กันใช่ไหมครับ!?

ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม น้ำแดงหรือน้ำเขียว แฟนต้าก็เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม ขายดีไปทั่วโลก ถึงขั้นได้รับการดัดแปลงไปมากกว่า 100 รสชาติ

ว่าแต่คุณทราบกันหรือไม่ว่า แม้แฟนต้าจะเป็นแบรนด์ย่อยของโคคาโคล่า แต่กลับมีต้นกำเนิดมาจากคู่อริในสงครามอย่างเยอรมนี

แถมยังเกิดขึ้นจาก “ความพยายาม” ของพนักงานคนหนึ่ง ที่อยากจะสร้างโค้กขึ้นมาด้วยสูตร “มั่วๆ” เองอีกด้วย…

 

ย้อนประวัติ ก่อนจะมาเป็นแฟนต้า

แล้วพอเราพูดถึงเรื่องโคคาโคล่าในเยอรมนี ก็ต้องพูดถึงคุณ Max Keith

คุณ Max เขามีชื่อเสียงในฐานะมันสมองของบริษัท เจ้าของผลงานเพิ่มยอดขายโค้กในประเทศเยอรมนี จากที่ตอนแรกขายได้เพียง 100,000 ลังในปี 1933

(ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ฮิตเลอร์เริ่มเรืองอำนาจ)

ภายในปี 1939 ผ่านไปแค่ประมาณ 6 ปี ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 4,000,000 ลัง ก้าวกระโดดมาถึง 40 เท่า!!

 

ความสำเร็จของคุณ Max Keith ในการพัฒนาบริษัทนั้น ถูกมองว่ามาจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น..

– เขาขอเงินลงทุน สร้างโรงผลิตเพิ่มในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ในตอนที่ทุกอย่างราคาถูก กลายเป็นว่าทั้งทำให้ต้นทุนถูก และเครื่องดื่มราคาถูกนี้ก็ขายดีตามไปด้วย

– บริษัทของเขามีกำลังผลิตสูง ในช่วงที่ตู้เย็นกำลังแพร่กระจายในยุโรปพอดี

– เขาเป็นคนผลักดันให้โค้ก เข้าสนับสนุนกีฬาโอลิมปิกในปี 1936 จนคนรู้จักและนิยมไปทั่วประเทศ

 

ทำให้ในเวลานั้น ประเทศเยอรมนี กลายเป็นตลาดผู้บริโภคโคคาโคล่าที่ใหญ่ที่สุด (ถ้าไม่นับต้นกำเนิดอย่างสหรัฐฯ)

แถมปกติแล้วเนี่ย โค้กจะไม่ให้ผู้ผลิต ได้รับสูตรลับของตัวเองไปได้ง่ายๆ

แต่เมื่อขายดีขนาดนั้น คุณ Max Keith เอง ก็ได้รับสิทธิที่จะผลิตส่วนประกอบลับของโค้ก ในโรงงานของตัวเองมากถึง 7 อย่าง จากทั้งหมด 9 อย่างด้วยกัน

 

Max Keith ชายผู้สร้างโคโคโคล่า ให้ขายดีในเยอรมนี

 

สงคราม-นาซี-และน้ำผลไม้มั่วๆ

แต่ช่วงเวลาดีๆ ของคุณ Max Keith กลับไม่ยั่งยืนเท่าไหร่นัก

เพราะในตอนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้น เขาต้องพบกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการผลิตและขายเครื่องดื่ม

เริ่มจากการที่โรงงานจะถูกรัฐบาลเข้ายึด ด้วยเหตุผลว่าเป็นบริษัทอเมริกัน และต้องหาเงินเข้ารัฐไปใช้ในสงคราม

เขาก็ใช้เส้นสายในพรรคนาซี ซิกแซกให้โรงงานยังผลิตน้ำอัดลมขายต่อไปได้

ต่อมาคือเรื่องวัตถุดิบสำหรับทำโค้ก ถูกส่งมาน้อยลงเรื่อยๆ

แม้ในช่วงแรกของสงครามก็ดูจะไม่ร้ายแรงนัก..

แต่หลังจากปี 1941 ที่สหรัฐฯ ประกาศเข้าร่วมรบ ความตึงเครียดของทั้งสองประเทศ ก็ทำให้วัตถุดิบที่จะผลิตน้ำอัดลมขายนั้นหายไป

 

ต่อให้เป็นเครื่องดื่มที่ขายดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีวัตถุดิบ ก็ไม่สามารถทำออกมาขายได้!!

ดังนั้นคุณ Max Keith จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการผสมเครื่องดื่มของตัวเอง โดยอาศัยส่วนประกอบลับที่เขารู้

 

เขาสร้างเครื่องดื่มใหม่ขึ้นมาจากสิ่งที่เจ้าตัวเรียกว่า “เศษซากของสิ่งที่เหลือ”

เขาใช้กากแอปเปิ้ล ที่เหลือจากการกดทำไซเดอร์

ใช้น้ำใสๆ ที่เหลือจากการนำนมไปทำชีส

แล้วอย่างอื่น.. เขาบอกว่าก็ลองจินตนาการ แล้วผสมมันขึ้นมาสิ

เช่น การใช้ผลไม้อื่นๆ มาผสมกันไปแบบมั่วๆ ซึ่งก็เป็นผลไม้ที่หาได้ในประเทศ หรือนำเข้าจากชาติพันธมิตรอย่างอิตาลีในตอนนั้น

แล้วคุณคิดว่ามันจะอร่อยเหมือนกับโค้กต้นตำรับเหรอ.. คำตอบก็คือไม่สิ!! (ฮ่าาาา)

สินค้าของคุณ Max Keith ในเวลานั้น ออกมาเป็นน้ำขุ่นๆ สีน้ำตาลที่ค่อนข้างห่างไกลจากความอร่อย

แต่ในเมื่อยุคนั้นน้ำหวานอัดลมหายาก ก็ยังพอขายออกได้บ้าง ถึงขั้นที่บางคนซื้อไปทำน้ำซุป เพราะมันมีความหวาน มีกลิ่นผลไม้ ซึ่งในยุคนั้นน้ำตาลก็หายากเช่นกัน

ด้วยความที่สูตรของมัน มาจากจินตนาการ ซึ่งในภาษาเยอรมันคือคำว่า “Fantasie”

ทำให้คุณ Max ใช้มันเป็นชื่อของสินค้าที่เขาขาย และภายหลังก็ถูกย่อลงมาเหลือจนแค่ “Fanta” อย่างในปัจจุบัน

 

แฟนต้าในยุคแรกหน้าตาจะประมาณนี้

 

จุดจบของสงคราม และการเริ่มต้นใหม่ของแฟนต้า..

Max พัฒนาสูตรให้เครื่องดื่มของเขาอร่อยขึ้นเรื่อยๆ

จนในปี 1943 ตอนนั้นแฟนต้าเริ่มติดตลาด โดยขายได้มากถึง 3 ล้านลังต่อปี แต่สถานการณ์ของเยอรมนีในสงคราม กลับย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

นอกจากโรงงานจะเสี่ยงต่อการถูกทิ้งระเบิด จากเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรที่กระชับพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ

ทางด้าน Max ที่ก่อนหน้านี้ใช้เส้นสายคนในพรรคนาซี ให้โรงงานอเมริกันยังคงเปิดทำงานได้ ก็เริ่มถูกเพ่งเล็งจากทางรัฐบาล

เขาถูกสอบสวนโดยกระทรวงยุติธรรม และโรงงานนั้นก็อาจถูกรัฐบาลยึด เพื่อหารายได้เข้ารัฐไปใช้ในสงครามแบบเต็มกำลัง

แต่ Max Keith ก็ยังดวงแข็ง เพราะหลังจากถูกเรียกไปสอบสวนเพียงสัปดาห์เดียว กระทรวงยุติธรรมก็ถูกทิ้งระเบิด สังหารรัฐมนตรีคนใหม่ที่เพ่งเล็งเขาเป็นพิเศษ

ดังนั้นเรื่องสอบสวนเขาก็จบลง และได้กลับไปขายแฟนต้าต่อแบบงงๆ

จนในอีก 3 เดือนต่อมาสงครามก็จบลง..

ทันทีที่ทหารอเมริกันพบตัว Max Keith เขาก็แจ้งว่าตัวเองเป็นคนของโคคาโคล่า และขอส่งโทรเลขไปหาบริษัทแม่ที่สหรัฐฯ เพื่อขอความช่วยเหลือทันที

พอดีกับที่บริษัทแม่ในสหรัฐฯ ส่งทีมวิศวกรมาช่วยซ่อมโรงงานในยุโรปทันที หลังจากฝั่งเยอรมันแพ้สงครามอยู่แล้ว

เพราะธุรกิจก็ย่อมอยากรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง และทำให้ทุกโรงงานกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตตามมาตรฐานได้เร็วที่สุดอีกครั้ง

เมื่อบริษัทแม่รู้ว่า Max Keith พยายามช่วยเหลือบริษัท และรักษายอดขายเอาไว้ได้ จึงตบรางวัลอย่างงามด้วยการให้เขาขึ้นเป็นประธานของโคคาโคล่าในยุโรป

ที่สำคัญคือ ผลงานแฟนต้าของเขา ถูกนำไปปรับปรุงสูตรให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น เพื่อกลับทำตลาดแบบจริงๆ จังๆ อีกครั้งในปี 1955

ความพยายามแบบมั่วๆ ที่มาจากความตั้งใจจริงนั้น ส่งผลให้มันกลายมาเป็นน้ำหวานยอดนิยมอีกแบรนด์หนึ่งได้สำเร็จ

และมันก็กลายเป็นหนึ่งแบรนด์ย่อยของโคคาโคล่า ที่วางขายไปทั่วโลก มาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย…

 

รู้จัก "แฟนต้า" กันใช่ไหมครับ!?ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม น้ำแดงหรือน้ำเขียว แฟนต้าก็เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2020

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา

timeline.com/fanta-coca-cola-nazi-845ee7e513af

www.atlasobscura.com/articles/fanta-soda-origins-nazi-germany

medium.com/bc-digest/fanta-how-one-man-in-nazi-germany-created-a-global-soda-16c4d3f2672

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...