สินค้าไทยแบบไหน ที่ขายดีใน Amazon แหล่งรายได้ใหม่ ที่นักธุรกิจไทยไม่ควรพลาด!!

191
Facebook
Twitter
LINE

ทำไมการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงน่าสนใจ?

หลายคนอาจจะเริ่มสัมผัสได้ว่า รอบตัวของเรานั้นมีการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น

เริ่มมีรถส่งพัสดุหลายเจ้า วิ่งเข้าออกหมู่บ้านทุกวัน มีคนสั่งกล่องมาแทบทุกบ้าน

และได้ทำให้เกิดนักธุรกิจที่ร่ำรวยผ่านการค้าขายออนไลน์ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตไปทั่วโลกตอนนี้

เพราะไม่ใช่เพียงแค่ในไทย แต่อัตราการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซบนโลกของเรานั้น กำลังเพิ่มขึ้นสูงถึงปีละ 16.5% เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ลองเทียบกับตลาดค้าปลีกทั่วโลก ที่โตเพียงปีละ 3.7% เท่านั้น

เมื่อเจาะลึกลงไปอีก จะเห็นว่าตลาด Cross-Border E-Commerce หรือการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซแบบข้ามประเทศ ก็กำลังโตขึ้นไม่น้อย

จากแต่เดิมที่โรงงานจะต้องผลิตสินค้า ส่งออกเป็นล็อตใหญ่ แล้วนำเข้าโดยตัวแทนจำหน่ายปลายทาง ก่อนที่จะกระจายสู่ร้านขายส่ง ร้านขายปลีก และผู้ค้ารายย่อย

แต่ในโลกอีคอมเมิร์ซนั้น สามารถตัดความยุ่งยากเหล่านั้นออกไป โดยที่ผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ ก็สามารถขายสินค้าของตัวเองได้โดยตรง และส่งสินค้าปลีกไปถึงมือผู้ซื้อได้โดยตรงอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้สินค้าของไทย ที่แต่เดิมจะมีเพียงแค่ผู้บริโภคในประเทศ ได้มีโอกาสไปเข้าถึงลูกค้าอีกนับพันล้านในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่

ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา หรือสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประเทศหลังที่ผู้คนนิยมการซื้อของออนไลน์ มากกว่าชาติอื่นๆ

เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในระดับโลกดูน่าสนใจขึ้นมา โดยเฉพาะการนำสินค้าไทยไปขายบนแพลตฟอร์มใหญ่ของต่างชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Amazon แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน

แล้วสินค้าไทยแบบไหน ถึงจะขายได้ใน Amazon ?

ถึงแม้จะมีสินค้านับล้านอย่างวางขายอยู่บนแพลตฟอร์มดังกล่าว แต่ก็ย่อมมีทั้งสินค้าที่ขายได้ดีมาก ไปจนถึงขายยาก

เพื่อเป็นแนวทางให้เหล่าผู้ขายชาวไทยได้มี เราเลยนำข้อมูลจากทาง Amazon Global Selling มาสรุปให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้นครับ

 

 

โดยทั้ง 10 อันดับหมวดหมู่สินค้าขายดี นั้นจะประกอบไปด้วย

10. สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ตัวอย่างเช่น กางเกงเล เสื้อผ้าฝ้าย ถุงเท้า

9. ศิลปะ-งานฝืมือ ตัวอย่างเช่น กรอปรูป ภาพโมเสค DIY ไม้บรรทัดตัดเสื้อ

8. กลุ่มเครื่องสำอาง-ความงาม ตัวอย่างเช่น สบู่หรือเเชมพู ครีมเเละเเซรั่มบํารุงผิว รวมถึงนํ้ายาทาเล็บ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

7. ของเล่นจากไทย ตัวอย่างเช่น ตัวต่อ ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ ผ้ากันเปื้อนเด็ก / ขวดนมเด็ก

6. อัญมณี-เครื่องประกอบ ตัวอย่างเช่น สร้อยคอ กำไล ต่างหูรูปแบบต่างๆ

5. สินค้ายานยนต์ ตัวอย่างเช่น เครื่องประดับยนต์ต่างๆ

4. สินค้าเกี่ยวกับบ้าน ตัวอย่างเช่น เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์ทําความสะอาด ที่จัดเก็บสินค้า

3. อุปกรณ์กีฬา ตัวอย่างเช่น กางเกงมวยไทย อุปกรณ์เกี่ยวกับมวยไทย น้ำมันมวย

2. สินค้าเครื่องครัว ตัวอย่างเช่น ช้อนส้อมไม้ จานไม้ แผ่นรองจาน

และกลุ่มที่ขายดีที่สุดอันดับ 1 นั่นก็คือสินค้าในกลุ่มของกินของใช้ทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีผู้ซื้อและผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุด

สินค้าในกลุ่มนี้ เช่น ขนมขบเคี้ยว ซอสปรุงรส ผลไม้อบเเห้ง

และแน่นอนว่า นอกจากสินค้าทั้ง 10 กลุ่ม ยังมีสินค้าไทยอีกจำนวนมาก ที่สามารถสร้างยอดขายได้ดีบน Amazon ด้วยเช่นกัน

 

โอกาสในโลกอีคอมเมิร์ซที่ยังคงเปิดกว้าง…

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของเรานั้นก้าวสู่ยุคอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว และเทรนด์ดังกล่าวทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เต็มไปหมด

ซึ่งหากใครที่สนใจในธุรกิจดังกล่าว หรือต้องการที่จะนำสินค้าไทย ก้าวสู่ตลาดโลกโดยการขายผ่านแพลตฟอร์ม Amazon ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

ยิ่งในปัจจุบัน Amazon ได้มีการจัดตั้งทีมงาน Amazon Global Selling ขึ้นในประเทศไทย พร้อมทีมงานชาวไทยไว้คอยให้บริการผู้ขายในไทยอีกด้วย

และในวันที่ 21 มกราคมนี้ ทาง Amazon Global Selling ก็กำลังจะมีงานใหญ่ประจำปี Amazon Global Selling Thailand Seller Conference 2022 รวมทุกเรื่องที่ผู้ขายต้องรู้เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ ทั้งเทรนด์ และการเริ่มต้นขาย

ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่ https://amzn.to/AmazonTH-SellerCon-2022

 

บทความนี้สนับสนุนโดย Amazon Global Selling

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...