Facebook
Twitter
LINE

จะเป็นอย่างไรเมื่อคนที่ควรป้องกันอาชญากรรม กลายเป็นผู้ก่ออาชญากรรมเสียเอง..?

 

ย้อนกลับไปหลายปีก่อน เมืองบัลติมอร์ ในสหรัฐอเมริกา ถูกจัดว่าเป็นเมืองที่มีการก่อความรุนแรง อาชญากรรม และการใช้อาวุธปืนที่สูง

โดยเฉพาะในพื้นที่คนยากจน ชุมชนชาวฮิสแปนิก และชุมชนผิวดำ ซึ่งมีรายงานว่ามีอาชญากรรมที่สูงกว่าย่านอื่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเมือง จึงตั้งกลุ่มพิเศษซึ่งใช้ชื่อว่า Gun Trace Task Force มีเป้าหมายก็คือ การลดอาชญากรรม และควบคุมอาวุธปืน

แต่ปรากฏว่า แม้จะมีหน่วยตำรวจที่มาคอยจัดการเรื่องดังกล่าว เหตุการณ์ความรุนแรงกลับไม่ลดลง อาชญากรรมยังเกิดขึ้นสูงอยู่เช่นเดิม

ตรงกันข้ามกับ “การแจ้งสายฉุกเฉิน 911” ที่มีตัวเลขไม่สอดคล้องกับจำนวนอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น จนน่าสงสัยว่าทำไมคนถึงไม่โทรแจ้งตำรวจล่ะ?

 

 

สำหรับกลุ่มคนที่มีฐานะดี ได้อยู่ในบ้านที่ปลอดภัย อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของเมือง อาจจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น..

ตรงกันข้ามกับกลุ่มคนยากจน ในพื้นที่ก่ออาชญากรรมสูง พวกเขาพบว่ามีตำรวจบางคนทำพฤติกรรมในลักษณะป้ายความผิด รีดไถทั้งคนบริสุทธิ์ และอาชญากร แลกกับการปล่อยตัว ไปจนกระทั่งขายของผิดกฎหมาย

 

ตัวอย่างพฤติกรรมอันเลวร้ายของกลุ่ม GTTF ที่ถูกเปิดเผยออกมาในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น..

– ขับรถเป็นกลุ่มแล้วพุ่งใส่รถเป้าหมายในเวลากลางคืน ถ้าใครตกใจ หยุดรถ หรือกระทั่งวิ่งหนี ก็พร้อมยัดยาเสพติดให้ ตามมาด้วยการรีดไถ

– ขโมยกุญแจของผู้ต้องสงสัย จากนั้นแอบไปที่บ้านแล้วค้นตู้เซฟ พบยาเสพติดและเงิน 6 ล้านบาท แต่แอบยักยอกมา 3 ล้านบาท ก่อนที่จะทำเป็นถ่ายคลิปเหมือนเปิดตู้เซฟครั้งแรก แล้วเจอเงินแค่ครึ่งเดียว

– ขโมยยาจากผู้ต้องหายาเสพติด ไม่ลงบันทึกว่าจับกุมยาเสพติดได้ จากนั้นนำกลับไปเข้าตลาดมืดอีกครั้ง

– สืบคดีจนไปเจอกัญชาผิดกฎหมายและอาวุธปืน แน่นอนว่าไม่ได้จับกุมเป็นคดีความ แต่ต่อรองเอาไปขายหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

– ไม่มาลงเวลาทำงาน แต่หยุดงานไปเต็มเดือนเพื่อเอาเวลาไปรีโนเวทบ้าน หรือบางคนก็ไปเที่ยวทะเลอยู่อีกรัฐหนึ่ง แต่ยังคงได้เงินเดือนเต็ม

เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงแค่ไม่กี่คดีเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นมีการเปิดเผยว่า มีมากกว่า 3,000 คดี ที่กลุ่มตำรวจเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้อง

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากี่คดี กลุ่มตำรวจเหล่านี้ก็ไม่เคยต้องรับโทษ เป็นเพราะว่าพวกเขาช่วยกันปกปิดเงียบ กระทั่งทำเอกสารปลอมในชั้นศาล เพื่อให้พ้นจากข้อกล่าวหา

 

แต่แล้ว จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง…

ในปี 2016 หลังจากที่การเสียชีวิตของ Freddie Gray ชายผิวดำที่ถูกตำรวจจับ แล้วเสียชีวิตภายในรถคุมขังอย่างเป็นปริศนา

นั่นทำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ภายในเมือง ตามมาด้วยการสืบสวนอย่างจากทางการ ทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความลับดำมืดที่ตำรวจพากันปกปิดมานาน

 

จนกระทั่งภายหลังการสอบสวน ที่ยืดเยื้อยาวนานนับปี..

ท้ายที่สุด สมาชิก 8 คนจากทั้งหมด 9 คนของหน่วยดังกล่าว ได้รับการตัดสินว่าผิด ประกอบไปด้วย Thomas Allers, Momodu Gondo, Evodio Hendrix, Wayne Jenkins, Jemell Rayam, Maurice Ward, Daniel Hersl และ Marcus Taylor

มีเพียง John Clewell เจ้าหน้าที่นายเดียวที่ไม่โดนคดี เนื่องจากไม่มีหลักฐานเอาผิด และมีรายงานว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมเหล่านั้น

 

 

ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าว ก็พากันออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐชดใช้ ยกตัวอย่างเช่น..

ชายที่ต้องติดคุก 4 ปีในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ ได้รับเงินชดใช้ราว 17 ล้านบาท

ชายสองคนที่โดนตำรวจยัดยาเสพติด รับค่าชดเชย 200 ล้านบาท

สองเคสนี้เป็นเพียงตัวอย่างใน 30 คดีที่ได้รับการชดเชยไปแล้ว รวมค่าเสียหายที่ภาครัฐต้องมาชดเชยไปมากกว่า 450 ล้านบาท และคงมีมากกว่านั้นตามมา

จนมีการประเมินว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกลุ่ม GTTF นี้ อาจจะสูงกว่า 1,000 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมถึงความเสียหาย จากอาชญากรรมที่พวกเขาทำขึ้นเอง

หรือกระทั่งการที่อาชญากรบางคนไม่ต้องติดคุก แล้วไปก่อคดีต่างๆ ตามมาภายหลัง ซึ่งความเสียหายจุดนี้ ล้วนแต่ประเมินค่าไม่ได้

นับเป็นเคราะห์ดี ที่ผู้เสียหายบางราย ยังมีชีวิตอยู่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง บางส่วนก็ได้รับเงินชดเชยในท้ายที่สุด

แต่เราก็ไม่รู้เลยว่า เบื้องหลังที่ลึกลงไปยิ่งกว่านั้น จะมีผู้เสียหายอีกกี่รายที่ต้องเสียเวลา เสียอนาคต หรือกระทั่งเสียชีวิตไปแบบเงียบๆ ก็เป็นได้เช่นกัน…

 

 

ที่มา:

www.vox.com/policy-and-politics/2018/2/2/16961146/baltimore-gun-trace-task-force-trial

baltimore.cbslocal.com/2021/07/21/baltimore-city-gttf-victims-14-million-settlement/

www.baltimoremagazine.com/section/artsentertainment/gun-trace-task-force-corruption-book-i-got-a-monster/

https://en.wikipedia.org/wiki/Death_of_Freddie_Gray#Aftermath

 

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...