“อินเดีย” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองที่สุด เลยก็ว่าได้
เพราะนี่คือประเทศที่มีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 1,300 ล้านชีวิต และยังมีแนวโน้มประชากรเพิ่มขึ้น จนแซงหน้าจีนในไม่ช้า
จำนวนผู้คนมหาศาลขนาดนี้ ย่อมทำให้อินเดียเป็นเป้าหมายหลักของหลายๆ ธุรกิจ รวมไปถึงธุรกิจสมาร์ทโฟนด้วย
แต่.. มีเรื่องแปลกๆ ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ แม้ iPhone จะเป็นโทรศัพท์ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก
แต่ 5 อันดับแรกของผู้นำตลาดอินเดีย กลับไม่มีบริษัท Apple ซะอย่างนั้น.. ทำไมล่ะ!??
ประเทศที่ Android เป็นผู้ชนะ…
หากเราลองสังเกตส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดียเมื่อปี 2019 เราจะพบว่าโทรศัพท์ที่ขายดีที่สุดในประเทศ ประกอบด้วย..
อันดับ 1 Xiaomi ส่วนแบ่ง 27%
อันดับ 2 Vivo ส่วนแบ่ง 21%
อันดับ 3 Samsung ส่วนแบ่ง 18%
อันดับ 4 Oppo ส่วนแบ่ง 12%
และอันดับ 5 Realme ส่วนแบ่ง 8%
จะเห็นได้ว่าผู้จำนายสมาร์ทโฟนอันดับต้นๆ ของอินเดียนั้น จะเป็นระบบ Android ของผู้ผลิตจากจีนซะส่วนใหญ่
ซึ่งค่ายเหล่านั้น แม้ประสิทธิภาพบางเครื่องอาจจะสู้ iPhone ไม่ได้ แต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องราคาสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า และเป็นราคาจับต้องได้
นั่นเพราะแม้ประเทศอินเดียจะมีค่า GDP สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรอินเดีย อยู่ที่คนละราวๆ 5,800 บาทต่อเดือน เท่านั้น
เทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ค่าเฉลี่ยรายได้คนไทยอยู่ที่คนละประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน มากกว่ากันราว 3.5 เท่า
เมื่อประชากรรายได้เฉลี่ยน้อย iPhone ที่ตั้งราคาขายทั่วโลกพอๆ กัน อย่างในตอนที่เปิดตัวมา iPhone XR เคยราคาสูงถึง 35,000 บาทในอินเดีย
แม้ iPhone XR ในตอนนี้จะเหลือเริ่มราว 20,000 บาท มันก็ดูจะแพงเกินไป
ที่สำคัญคือ ถ้าคนอินเดียจะซื้อ iPhone 6 ที่ตกยุคไปหลายปีแล้ว ราคาของมันก็อยู่ที่ราวๆ 7,000 บาท
ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าเลย สำหรับประเทศที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กว่า 3 ใน 4 ของตลาด ราคาต่ำกว่า 7,700 บาท แถมมีสเปคทันสมัยกว่าด้วย
การเจาะตลาดอินเดีย ที่มีปัญหารุมเร้า
นอกจากเรื่องราคาที่เป็นปัญหาสำคัญของ iPhone แล้ว บริษัท Apple ยังมีปัญหากับประเทศอินเดีย ในด้านการทำตลาดด้วย
พวกเขาไม่มีความได้เปรียบจากการจดจำแบรนด์ของผู้บริโภค (Brand Recognition) เหมือนกับที่เกิดในสหรัฐฯ ที่คนพร้อมจะซื้ออะไรที่เป็น Apple
ก็ที่นี่คือประเทศอินเดีย ที่มีคนรายได้น้อย และพร้อมเปิดใจให้แบรนด์ใหม่ๆ ที่มีข้อเสนอคุ้มค่ากว่า
แถมการจะเจาะตลาดคนมีเงินขึ้นมาหน่อย ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าของ Apple อยู่บ้าง ก็ยังมีปัญหากวนใจ ให้ลูกค้าอยากเบือนหน้าหนี..
นั่นเพราะในประเทศยังไม่สนับสนุน Apple Maps ให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงระบบอื่นๆ อย่าง Apple Pay ก็ไม่มี
และที่สำคัญคือ Siri ของ Apple ในตอนแรกดูจะมีปัญหากับสำเนียงอินเดีย จนต้องปล่อยตัวอัปเดตตามมา พร้อมทุ่มทำโฆษณาให้รู้ว่ามีสำเนียงอินเดียแล้ว
มันก็ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้คนอินเดีย หันมาใช้งาน iPhone กันอย่างจริงจังนัก
และถึงแม้จะมีตัวแทนจำหน่ายในอินเดีย เพื่อขายสินค้าของ Apple ให้กับลูกค้าที่อยากจะใช้งานอยู่บ้าง
แต่จนถึงตอนนี้ Apple ก็ยังไม่ได้เปิดร้านของตัวเองอย่างเป็นทางการ ในประเทศอินเดียเลย
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Apple มีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียที่ราวๆ 1-2% เท่านั้น
ในแง่ร้าย ก็ยังมีแง่ดีอยู่บ้าง เพราะจากการเทคนิคการปรับลดราคาสินค้าลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายปีล่าสุดก้าวกระโดดถึง 78% จากปีที่ผ่านมา
แต่.. ถึงจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้เป็นครั้งแรก ค่าย Android อื่นๆ ก็ยังพร้อมจะส่งรุ่นใหม่ออกมา และลดราคาลงมาสู้อีก
ซึ่งสุดท้าย มันก็เป็นโจทย์ยากมากๆ สำหรับค่ายผลไม้ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก แต่กลับยังทำไม่ได้ในอินเดีย
แล้วถ้าคุณเป็นผู้บริหาร Apple เองล่ะ จะมีกลยุทธ์ใดที่จะขยายตลาดในอินเดียได้บ้าง!?
ลองมาร่วมพูดคุยกันสิครับ…
ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit
– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา
www.theverge.com/2018/7/25/17611438/iphone-in-india-obstacles-to-success
www.youtube.com/watch?v=WrYbvyddS1s
www.businessinsider.com/apple-has-screwed-up-india-2019-2
www.counterpointresearch.com/india-smartphone-share/
www.forbes.com/sites/petercohan/2018/12/19/5-reasons-apples-india-strategy-is-an-epic-fail/
Advertisement
