เมื่อราคาทองคำ พุ่งสูงที่สุดในรอบ 8 ปี และกำลังลุ้นทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ มีอะไรน่าสนใจบ้าง!?
ล่าสุดราคาทองคำ พุ่งสูงกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทองคำราคาสูงขนาดนี้ ก็คือในเดือนกันยายน ปี 2011 ที่ราคาขึ้นไปถึง 1,912 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ถ้าราคายังคงพุ่งสูงขึ้นแบบนี้ อีกไม่นานราคาทองคำก็จะทะลุจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์
การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของทองคำ มีอะไรน่าสนใจบ้าง?? มาติดตามกันครับ..
ก่อนอื่น ขอย้ำสิ่งที่เคยเขียนไปในบทความก่อนๆ นะครับ ว่าผมเองไม่สามารถ “รู้” ราคาทองคำได้อย่างแน่นอน ว่าต่อจากนี้จะขึ้นหรือลงไปอีก!?
และก็ยังไม่มีตัวแปร หรือเครื่องมือใดๆ มาทำนายการขึ้นลงของราคาทองได้อย่างแม่นยำ 100%
แต่ถ้าพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราพอจะมองย้อนกลับไปอธิบายสาเหตุของราคาทองคำที่กำลังพุ่งขึ้นมาในช่วงนี้ได้..
1. นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ยังคงไปในทิศทางที่ดี นับตั้งแต่การตกลงอย่างหนักในช่วงเดือนมีนาคม
หนึ่งในเหตุผลที่ใช้อธิบายการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็คือนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
เงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 48 ล้านล้านบาท ถูกอัดฉีดเข้าไปเพื่อทั้งเสริมสภาพคล่องในตลาด และช่วยพยุงธุรกิจ
ธนาคารกลางยังยืนยันว่า พร้อมใช้ “มาตรการทางการเงินทุกรูปแบบ” เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
ปัญหาคือเงินที่อัดเข้าไปนี้ ถูกมองว่าจะแค่ช่วยพยุงราคาหุ้นเท่านั้น ไม่ใช่ไปถึงพื้นฐานเศรษฐกิจที่แท้จริง
เพราะฉะนั้นถ้าเศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวมาทันกับตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้นนำไปก่อนแล้ว อาจจะส่งผลให้เกิดวิกฤติทางการเงินตามมา
แม้จะเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มกลับมาขับเคลื่อนไปต่อได้
แต่คำถามที่ว่าจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่เมื่อไร.. ก็คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้
ซึ่งความไม่มั่นคงนี้ ก็นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นทั้ง “ตลาดหุ้น” และ “เงินดอลลาร์” จนเงินไหลเข้าไปในทองคำมากยิ่งขึ้น
2. เงินไหลเข้ากองทุนทองคำอย่างต่อเนื่อง
สภาทองคำโลก รายงานว่ามีกระแสเงินทุน ไหลเข้ากองทุนรวมทองคำ (Gold ETF) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถ้าเรานับจากช่วงกลางปี 2018 มาจนถึงปัจจุบัน ทองคำพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 50% จากราคาตอนนั้น
ก่อนหน้านี้ สถิติเงินไหลเข้ากองทุนรวมทองคำ เกิดขึ้นในปี 2016 โดยมีมูลค่ากระแสเงินลงทุน 700,000 ล้านบาท
แต่เพียงแค่ครึ่งแรกของปี 2020 ก็ทำลายสถิติเงินไหลเข้ากองทุนรวมทองคำนั้นได้แล้ว
โดยเฉพาะกองทุนรวม SPDR ซึ่งจดทะเบียนในอเมริกาเหนือ ตอนนี้ถือครองทองคำถึง 1,000 ตัน
ตัวเลขนั้น มากกว่าประเทศที่ถือทองคำเป็นทุนสำรองระดับท็อป 10 ของโลก ทั้งญี่ปุ่น อินเดีย หรือเนเธอร์แลนด์ อีกด้วย
(ขณะที่ประเทศไทย ถือครองทองคำ 154 ตัน เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ)
3. “ทองคำ” ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ Safe Haven อยู่เสมอ
นอกเหนือจากความจำเป็นที่แท้จริงแล้ว การที่มนุษย์ส่วนใหญ่บนโลกให้ค่ากับอะไรสักอย่าง ก็ทำให้มันยังคงมีค่าอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับคุณค่าของ “ทองคำ”
เมื่อสินทรัพย์อย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หุ้นกู้ หรือการถือเงินสดนั้นดูมีความเสี่ยง
ผู้คนก็จะเลือกวิ่งเข้าหาทองคำ เปรียบเหมือนว่ามันคือ “หลุมหลบภัย” ที่ต่อให้เกิดอะไรขึ้น มันก็ยังเป็นของมีค่าอยู่เสมอ
และเมื่อใครต่อใครก็วิ่งเข้าหาทองคำ ยิ่งส่งผลให้ความต้องการของทองคำมีสูงขึ้น
ซึ่งแน่นอน.. ความต้องการเหล่านี้ จะยิ่งทำให้ราคาทองคำแพงขึ้นไปอีกในอนาคตอันใกล้
แต่… เราต้องห้ามลืมว่า โลกการเงินนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ย้อนกลับในปี 2011 ทองคำเคยทำราคาขึ้นไปถึง 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
จากนั้นช่วงต้นปี 2012 ราคาทองคำลดลงมาเหลือ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตอนนั้นหลายคนมองว่า ทองกำลังลง รีบช้อนซื้อสิ เพราะยังไงทองคำก็ต้องขึ้นอยู่แล้ว!?
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือ…
ในตอนแรกราคาทองคำวิ่งขึ้นไปจริงๆ แตะระดับ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงปลายปี 2012
แต่หลังจากนั้น มันก็ลงมาตลอด จนมาจมอยู่ระดับ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงต้นปี 2016 เป็นตัวเลขขาดทุนถึง 40%
จริงอยู่ที่ว่า ถ้าคุณไม่ขายมันออกไป ก็จะไม่ขาดทุน
แต่ก็ต้องรอถึง 8 ปี กว่าที่ราคามันจะขึ้นมาให้คุณขายได้ไม่ขาดทุนอีกครั้ง
ซึ่งคุณค่าของ “เวลา” ที่เสียไปนั้นมีค่ามหาศาล เพราะมันอาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ในการลงทุนแบบอื่น เพราะเงินจมอยู่ใน “ทองคำ” หมดแล้วก็เป็นได้..
ราคาทองคำ พุ่งสูงที่สุดในรอบ 8 ปี.. มีอะไรน่าสนใจบ้าง!?ล่าสุดราคาทองคำ พุ่งสูงกว่า 1,800…
โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2020
ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit
– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา:
www.investopedia.com/gold-crosses-usd1-800-for-the-first-time-since-2011-amid-record-etf-inflows-5070682
www.gold.org/goldhub/data/global-gold-backed-etf-holdings-and-flows
goldprice.org/gold-price-chart.html
www.aagold-th.com/article/770/
Advertisement
