Facebook
Twitter
LINE

เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วที่ประเทศไทยไม่มีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 จากคนสู่คนรายใหม่ในประเทศ

ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อ ที่เรียกว่าไทยนั้น ควบคุมโรคได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

แต่ทำไม เศรษฐกิจไทย จึงถูกประเมินว่าอาจจะติดลบสูงสุดในเอเชีย

ถึงขั้นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังประเมินว่าจะหดตัว -8.10% ร้ายแรงยิ่งกว่าตอนวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้วิเคราะห์สาเหตุดังกล่าวเอาไว้ด้วยหลายปัจจัย ซึ่งทางเรานำมาสรุปและเพิ่มเติมข้อมูล ให้ได้พอเข้าใจกันดังนี้ครับ..

 

1. รายได้หลัก จากการท่องเที่ยวหายไป

ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยประมาณ 39 ล้านคน สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านล้านบาท

และถ้ารวมตัวเลขการท่องเที่ยวในประเทศไปด้วย ภาคการท่องเที่ยวในไทยสร้างรายได้ประมาณ 3 ล้านล้านบาท

ถ้าเทียบกับ GDP ของประเทศไทยที่ 16 ล้านล้านบาท

เฉพาะรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็สูงถึง 12.50% ของ GDP

และถ้ารวมการท่องเที่ยวทั้งหมด ก็เป็นสัดส่วนถึง 18.75% ของ GDP

ซึ่งตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ภายในประเทศ รวมถึงงดเดินทางเข้าออกประเทศ เท่ากับว่าตัวเลขพวกนี้หายไปทั้งหมด

ยิ่งปิดนานเท่าไร ภาคการท่องเที่ยวยิ่งได้รับผลกระทบโดยตรงมากเท่านั้น

ถึงในตอนนี้จะมีการผ่อนคลายให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น แต่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มหาศาลกว่านั้น ยังไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร!?

 

 

2. นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาตอนไหน!?

มีการคาดการณ์ว่า นโยบาย Travel Bubble จะถูกนำมาใช้เพื่อเดินทางท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มประเทศ ที่ควบคุมโรคระบาดได้ดี

ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประเทศอย่างเต็มตัวในภายหลัง เมื่อทุกอย่างกลับมาดีแล้ว

คำถามก็คือ ที่ว่าเหตุการณ์ปกติดีนั้น คือดีแค่ไหน!? แล้วจะเปิดประเทศได้เมื่อไร!?

และที่สำคัญ.. หลังจากกลับมาเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวจะยังคงกลับมาเที่ยวหรือไม่!?

 

เพราะฉะนั้น จึงมีการประเมินจากธนาคารแห่งประเทศไทยว่า

จากปี 2019 ที่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวไทย 39.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 2 ล้านล้านบาท

ในปี 2020 นี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงเหลือเพียง 8 ล้านคน สร้างรายได้เพียง 0.4 ล้านล้านบาท

ในปี 2021 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเพิ่มขึ้นเป็น 16.2 ล้านคน สร้างรายได้ 0.8 ล้านล้านบาท

 

แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีหน้า มีโอกาสเพิ่มเป็น 2 เท่าของปีนี้ แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมา

เท่ากับว่าในช่วงเวลาทั้งปีนี้และปีหน้า เราจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวลดลง รวมกันถึง 2.8 ล้านล้านบาท!!

 

3. การส่งออกที่ชะลอตัว

แม้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของไทยจะเพิ่มขึ้น +0.5% (ข้อมูลจากสภาพัฒน์)

แต่ตัวเลขที่น่าสนใจ อยู่ในเดือนพฤษภาคม เมื่อตัวเลขการส่งออกในเดือนนั้นของไทย ลดลง -20% เทียบกับเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

เนื่องจากทั้งการล็อกดาวน์ภายในประเทศ รวมไปถึงความต้องการซื้อสินค้าในประเทศใหญ่ๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาลดลงไปอีก

แต่มีตัวเลขหนึ่งที่เพิ่มสูงขึ้นมากก็คือ “การส่งออกทองคำ”

การส่งออกทองคำของไทย สูงขึ้นอย่างน่าสนใจตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เดือนมกราคม ส่งออกทองคำ +299%

กุมภาพันธ์ ส่งออกทองคำ +178%

มีนาคม ส่งออกทองคำ +215%

เมษายน ส่งออกทองคำ +1,100% (มากกว่าเดือนเมษายนปีก่อน 10 เท่า!!)

และพฤษภาคม ส่งออกทองคำ +735%

พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ ทองราคาขึ้นมาแล้ว 20% เหมือนกับว่าเม็ดเงินต่างชาติกำลังไหลเข้าสู่ทองคำอย่างมหาศาล

 

 

4. ค่าเงินบาทแข็งตัว อาจจะซ้ำเติมปัญหา

ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาจาก 33 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 31.3 บาทต่อดอลลาร์

สถานการณ์ตอนนี้อาจจะต่างจากวิกฤติในปี 2540 ซึ่งเมื่อเงินบาทอ่อนค่าหนัก ก็ทำให้ทั้งการท่องเที่ยวและส่งออก สร้างรายได้มหาศาล

แต่ถ้าเงินบาทยังคงแข็งค่าจนเกินไป อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบตอนนี้ก็คือทั้งการท่องเที่ยวและส่งออก ซึ่งกลายเป็นรายได้หลักของประเทศไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีมาตรการทางการเงิน เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทอยู่บ้าง

ซึ่งนั่นก็นับเป็นเรื่องดี เพราะถ้าสามารถประคับประคองไม่ให้เงินบาทแข็งจนเกินไป จะช่วยเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว กลับมาเติบโตหลังวิกฤตินี้ได้ดียิ่งขึ้น

 

สรุปปิดท้าย..

เราลองมาดูตัวเลขการประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จากสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งก็ประเมินความน่าจะเป็นแตกต่างกันออกไป

ในกลุ่มที่มองดีหน่อยอย่าง ธนาคาร Standard Chartered ประเมินว่า -5.0%

ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมิน -7.5%

IMF ประเมิน -7.7%

ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมิน -8.1%

ส่วนที่มองว่าแย่กว่าก็เช่น ธนาคารกรุงเทพ ประเมิน -9.7%

หรือกระทั่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่าเศรษฐกิจไทย หดตัวถึง -10.3%

 

 

ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องรอให้ปีนี้ผ่านพ้นไป ถึงจะมีตัวเลขจริงๆ ที่ให้คำตอบกับเราได้

แล้วสำหรับคุณเองล่ะครับ สถานการณ์ของงานหรือธุรกิจของตัวเองเป็นอย่างไร!?

เศรษฐกิจไทยรอบตัวคุณตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง??

แล้วปีหน้า จะดีขึ้นอย่างที่ประเมินกันไว้ หรือแย่ลงไปอีก!? ลองมาร่วมพูดคุยกันต่อในคอมเมนต์ครับ…

 

เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วที่ประเทศไทยไม่มีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 จากคนสู่คนรายใหม่ในประเทศท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อ…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2020

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

www.bloomberg.com/news/articles/2020-07-06/here-s-why-thailand-s-dire-economic-outlook-is-the-worst-in-asia

https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=index

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...