Facebook
Twitter
LINE

ทำไมถึงต้องเป็น H&M ปะทะ ZARA!? เขียนถึงแบรนด์อื่นไม่ได้เหรอ!?

จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ยกให้ ZARA ติดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 46 ของโลก ขณะที่ H&M อยู่ในอันดับที่ 47 ด้วยมูลค่าพอๆ กันที่ 429,000 ล้านบาท

นั่นหมายความว่ามูลค่าของทั้งสองแบรนด์ถูกประเมินรวมกันเกือบ 900,000 ล้านบาท!!

การจับทั้งสองแบรนด์นี้มาเปรียบเทียบกันสักเล็กน้อย ผมจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

 

ย้อนกลับไปต้นกำเนิดของทั้งสองแบรนด์

– H&M เป็นของชาวสวีเดนคุณ Erling Persson เปิดร้านสาขาแรกในปี 1947 ในตอนแรกนั้นขายเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิง ก่อนที่ภายหลังจะเพิ่มแฟชั่นผู้ชายเข้ามา

– ZARA ถูกก่อตั้งในปี 1975 (เกิดทีหลังราว 30 ปี) โดยคุณ Amancio Ortega ชาวสเปน ซึ่งทีแรกร้านดังกล่าวขายเสื้อผ้าราคาถูก ที่ดูคล้ายกับแฟชั่นแบรนด์ดัง จึงได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นอย่างมาก

 

ร้านดั้งเดิมของ H&M

 

กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ

– H&M ใช้วิธีการจับมือกับดีไซน์เนอร์ เพื่อออกแบบสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ สร้างแบรนด์ตนเองให้ดูมีราคา เพราะฉะนั้นคอลเลคชั่นบางตัว ก็จะราคาแพงกว่าเสื้อผ้าธรรมดาในร้าน

– วิธีดังกล่าว ทำให้ดึงดูดลูกค้ากระเป๋าหนักที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ที่ต้องการเพียงเสื้อผ้าธรรมดาเช่นกัน

 

– ในช่วงยุค 1980 นั้น ZARA เปลี่ยนแนวคิดจากเดิมที่ทำเสื้อผ้าเลียนแบบแบรนด์ดังแต่ราคาถูกกว่า มาเป็นการทำให้แบรนด์ตัวเองดูแพงขึ้น

– กลยุทธ์ดังกล่าวของ ZARA จับเทรนด์แฟชั่น นำเสนอเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ จำนวนมาก ในเวลาที่รวดเร็วกว่าคู่แข่ง ช่วยให้จับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

– นั่นทำให้บริษัทต้องดำเนินการแบบครบวงจร มีโรงงานเสื้อผ้าของตัวเอง เพื่อเป้าหมายคือออกแบบดีไซน์ใหม่ ผลิต และทำขายภายใน 1 สัปดาห์ และเน้นความรวดเร็วเป็นหลัก

 

– ขณะที่ทางฟาก H&M นั้น พวกเขาไม่มีโรงงานของตัวเอง แต่เน้นเครือข่ายโรงงานทั้งในและต่างประเทศผลิตให้ไม่เคยขาดมือ

 

การเติบโตของทั้งสองค่ายจึงต่างกัน โดยที่…

ZARA เน้นความรวดเร็วและยกระดับแบรนด์ตัวเอง

ขณะที่

H&M เน้นสร้างแบรนด์และสร้างเครือข่ายเป็นหลัก

 

ZARA มีโรงงานตัดเย็บของตนเองมาตั้งแต่ยุค 80

 

H&M vs ZARA ในยุคปัจจุบัน

– ปัจจุบัน H&M มีร้านทั้งสิ้น 4,801 สาขา ใน 56 ประเทศ

– ปัจจุบัน ZARA มีร้านทั้งสิ้น 2,251 สาขา ใน 96 ประเทศ

 

รายได้-กำไรในปีล่าสุด

H&M ทำยอดขายทั่วโลกประมาณ 720,000 ล้านบาท กำไร 75,000 ล้านบาท

ZARA ทำยอดขายทั่วโลกประมาณ 630,000 ล้านบาท กำไร 109,236 ล้านบาท

แม้ ZARA จะมีสาขาน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง แต่สามารถทำยอดขายได้เทียบเคียง และทำกำไรได้พอๆ กับทาง H&M

 

ในรายงานประจำปี 2017 H&M ระบุว่าธุรกิจเสื้อผ้ากำลังอยู่ในช่วง “ความเปลี่ยนแปลง” ยอดขายในร้านค้าสาขานั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะยุคนี้คนนิยมจับจ่ายซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น

แต่ขณะเดียวกัน ยอดขายออนไลน์ของทาง H&M กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมายนัก นั่นทำให้พวกเขาต้องพยายามปรับปรุงช่องทางออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น

 

ขณะที่รายงานประจำปี 2017 ของ ZARA กลับพูดถึงความสำเร็จของร้านค้าออนไลน์ในอินเดีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม พร้อมจะขยายไปยังออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ในปี 2018

นั่นดูเหมือนว่า ZARA เตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับโลกออนไลน์ และพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซได้ดี ในขณะที่ยอดขายร้านสาขาก็ยังคงทำได้ในระดับที่น่าพอใจ

 

ยุคนี้เป็นยุคแห่งออนไลน์ช็อปปิ้ง

 

แม้โลกออนไลน์จะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะมีผลมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต…

การเติบโตที่ผ่านมาของทั้ง H&M และ ZARA แสดงให้เห็นว่าแม้คุณจะเริ่มต้นช้ากว่า แม้จะใช้กลยุทธ์ที่ต่างกัน แต่ธุรกิจก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน

ขณะเดียวกันความสำเร็จจากอดีต ก็ไม่ใช่เรื่องการันตีว่าอนาคตนั้นจะสำเร็จเสมอไป

เพราะฉะนั้นการตื่นตัวอยู่เสมอ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามโลกสมัยใหม่ ย่อมทำให้ธุรกิจของคุณไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ลองถามตัวเองนะครับ ว่าวันนี้คุณพร้อมแล้วหรือยัง…!?

 

 

ที่มา:

inditex.com

www.bbc.com

about.hm.com

www.forbes.com

www.investopedia.com

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...