การมี “บ้าน” เป็นของตัวเอง คืออีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน
แต่เชื่อหรือไม่ว่า จากสถิติแล้ว 70% ของการจ้างก่อสร้างบ้าน ต่อเติม หรือรีโนเวทบ้าน กลับมีปัญหาชวนปวดหัวเกิดขึ้นมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหลักอย่างผู้รับเหมารับเงินแล้วทิ้งงาน ทำงานล่าช้าเสร็จไม่ทันกำหนด หรือเสร็จทันแต่กลับได้งานที่ไม่มีคุณภาพ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้ปวดหัวเฉพาะผู้ว่าจ้าง ที่ต้องมาแบกรับความเสี่ยงเท่านั้น แต่ผู้รับเหมาดีๆ ที่ทำงานคุณภาพ ก็พลอยต้องมาโดนเหมารวม
เพราะฉะนั้น จะเป็นเรื่องดีแค่ไหน ถ้ามีใครสักคนสามารถจับความต้องการจ้างงานก่อสร้าง มาเจอกับผู้รับเหมาคุณภาพดี ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว…
นั่นจึงเกิดบริการที่ชื่อว่า GrowHome ขึ้นมา และเราจะพาคุณไปรู้จักกันในบทความนี้ครับ
GrowHome คืออะไร!?
GrowHome เป็นบริการใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ณ ปัจจุบัน ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านระบบเป็นมูลค่าโครงการมากกว่า 500 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการก่อสร้าง!!
GrowHome อธิบายง่ายๆ ก็คือบริการที่จะมาช่วยแก้ปัญหาของคนสร้างบ้าน โดยการเป็นตัวกลาง รับทราบความต้องการว่าจะทำอะไร จะสร้างบ้าน? ต่อเติม? รีโนเวทแบบไหนบ้าง?
จากนั้นก็จะเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมา (ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว) เสนอราคาเข้ามา ให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์เลือกราคาที่ถูกใจที่สุด
หลังจากนั้นผู้ว่าจ้างก็จ่ายเงินให้กับ GrowHome ซึ่งเงินนี้จะยังไม่ไปถึงผู้รับเหมา จนกว่างานจะเสร็จเรียบร้อยดี และได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กำหนดไว้
ทางฝั่งผู้ว่าจ้าง ก็จะมั่นใจได้ว่างานจะเสร็จ ไม่มีปัญหารับเงินแล้วทิ้งงาน ส่วนฝั่งผู้รับเหมา ก็การันตีว่าจะได้รับเงินแน่นอนเมื่องานเสร็จ
การรับประกันงาน
แน่นอนว่าการจะสร้างบ้านสักหลัง เจ้าของก็อยากจะได้บ้านที่สามารถอยู่อาศัยไปได้ในระยะเวลานานๆ เพราะฉะนั้นตัวกลางอย่าง GrowHome ก็จะเข้ามาช่วยรับประกันงานตรงนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันระยะยาวของงานรีโนเวท-ต่อเติม ไปจนถึงการรับประกันในหลัก 10-30 ปี สำหรับงานก่อสร้างบ้าน มีการดึงบริษัทใหญ่อย่าง “วิริยะประกันภัย” มาช่วยสร้างความมั่นใจว่าหากในอนาคตเกิดปัญหาไม่คาดฝัน ลูกค้าก็จะได้รับความคุ้มครองอย่างอุ่นใจอยู่
ขั้นตอนการใช้บริการ GrowHome
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ GrowHome จึงออกแบบแพลตฟอร์มให้ลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ และทำทุกอย่างได้สะดวกสบาย โดยมีขั้นตอนการใช้บริการดังนี้
1. ลูกค้าลงทะเบียนขอรับบริการ แจ้งรูปแบบงาน บอกความต้องการ และขอบเขตของงานที่จะทำ
2. GrowHome ติดต่อกลับเพื่อสอบถามรายละเอียดอย่างชัดเจน เพื่อนำไปแจ้งต่อยังผู้รับเหมาในเครือที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว
3. ผู้รับเหมาที่ผ่านการคัดเลือก ทำการประมูลงาน โดยเสนอราคาของงานให้กับลูกค้าได้เลือก
4. ลูกค้าเลือกผู้รับเหมา พร้อมกับจ่ายเงินให้กับ GrowHome เพื่อเริ่มงาน และเงินนั้นจะไม่ถูกจ่ายให้ผู้รับเหมาจนกว่างานจะเสร็จตามสัญญาจ้างที่ทำไว้ และทาง GrowHome ได้ตรวจสอบแล้วว่างานได้มาตรฐานอีกด้วย
ซึ่งจะเห็นว่า เพียงแค่ 4 ขั้นตอนง่ายๆ นี้ สามารถช่วยแก้ปัญหาอันน่าปวดหัวที่ทั้งฝั่งผู้ว่าจ้าง และผู้รับเหมา ต้องพบเจอในอดีตไปได้อย่างหมดสิ้น
เสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการ GrowHome
ด้วยบริการที่แปลกใหม่และน่าสนใจ แถมยังมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมก่อสร้างรายย่อย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ค่อยมีเทคโนโลยีมากนักนี้เอง
ทำให้ในปัจจุบัน GrowHome สามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ณ ปัจจุบัน ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านระบบเป็นมูลค่าโครงการมากกว่า 500 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่
สรุปข้อดี-ข้อเสีย เมื่อเทียบกับการจ้างในรูปแบบเดิมๆ!?
ข้อเสียที่เรามักจะเจอในการรับเหมาก่อสร้าง
– ช่างรับเหมาก่อสร้างรับเงิน แล้วทิ้งงาน
– งานไม่ได้คุณภาพ ใช้ไปสักพักเกิดความเสียหายตามมา
– ผู้ว่าจ้างเบี้ยวเงิน ไม่ยอมจ่ายเมื่องานเสร็จ
– ผู้ว่าจ้างไม่กล้าจ่ายเงิน ทำให้งานสะดุด และเกิดผลเสียต่อผู้รับเหมาและงานก่อสร้าง
– เกิดข้อพิพาทโดยไร้ตัวกลางที่เชื่อถือได้ควบคุม
ข้อดีของการใช้บริการ GrowHome
– GrowHome จะถือเงินไว้จนกว่างานเสร็จเรียบร้อยตามงวดงาน
– มีการรับประกันงาน และมีประกันภัยงานก่อสร้างจากบริษัทชั้นนำ
– ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการทิ้งงานเกิดขึ้น
– ผู้รับเหมาการันตีว่าได้เงินแน่นอนหากงานเสร็จ
– มีการออกแบบพร้อมขออนุญาตบริการฟรี
-นอกจากงานก่อสร้างบ้านใหม่ งานต่อเติมหรืองานรีโนเวทที่ขนาดไม่ใหญ่สามารถใช้บริการได้
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของ GrowHome หรือติดต่อขอใช้บริการได้ผ่านการลงทะเบียนผ่าน
www.growhomeproject.com
และจะมีเจ้าหน้าที่ติกต่อกลับเพื่อแจ้งรายละเอียดพร้อมให้คำปรึกษาก่อนตัดสินใจ
Advertisement
