Facebook
Twitter
LINE

ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าประมาณ 14 ล้านล้านบาท

แต่ถ้านับเฉพาะบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรก

ก็มีมูลค่าทางตลาดรวมกันถึง 5.04 ล้านล้านบาท คิดเป็น 36% ของมูลค่ารวมตลาดหุ้นแล้ว

 

 

รู้ไหมว่าบริษัทท็อป 10 เหล่านี้ แบ่งเป็นธุรกิจประเภทใดบ้าง!?

กลุ่มพลังงาน 3 บริษัท PTT และ PTTEP ธุรกิจในเครือ ปตท. ทั้งคู่ และบริษัทผลิตไฟฟ้า GULF

ส่วนกลุ่มอื่นๆ ติดเข้ามากลุ่มละ 1 บริษัท ได้แก่..

กลุ่มการขนส่ง AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

กลุ่มพาณิชย์ CPALL เครือซีพี ออลล์

กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ADVANC หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อแบรนด์ AIS

กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC เครือปูนซีเมนต์ไทย ซึ่งไม่ได้ใช้ชื่อว่า SCG (ส่วนชื่อหุ้น SCG นั้นเป็นของบริษัทสหโคเจน)

กลุ่มธนาคารคือ SCB ธนาคารไทยพาณิชย์

กลุ่มโรงพยาบาล BDMS เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ

กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คือ CPN หรือเครือเซ็นทรัล เจ้าของศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง

 

เป็นเจ้าของร่วมของบริษัทท็อป 10 ในตลาดหุ้น…

ถึงคุณจะเป็นเจ้าของบริษัทเหล่านี้แบบ 100% ไม่ได้ แต่คุณก็สามารถเป็นเจ้าของร่วมได้ด้วยการซื้อหุ้นของบริษัทเหล่านี้

แม้จะเป็นการซื้อเพียงแค่ 0.0001% ก็ตาม

ในตลาดหุ้นไทย คุณต้องซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น

เพราะฉะนั้นราคาขั้นต่ำที่จะเป็นเจ้าของได้ ก็คือการเอาราคาหุ้น คูณด้วย 100

นั่นก็คือราคาที่คุณสามารถเป็นเจ้าของร่วมบริษัทนั้นได้

 

อ่อ.. ที่จริงแล้วการซื้อขายหุ้นผ่านโบรกเกอร์

ยังต้องคิดค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 0.15-0.25% และเสีย VAT อีก 7% ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี

สมมติว่าคุณอยากเป็นเจ้าของ ปตท. ก็ซื้อ PTT จำนวน 100 หุ้น

เป็นราคา 37.50 x 100 = 3,750 บาท

ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 5-10 บาทนั่นเอง

 

การซื้อหุ้นบริษัทใหญ่นั้นมีข้อดีอย่างไร!?

ข้อดีอย่างหนึ่งคือความมั่นคง ซึ่งบริษัทใหญ่ระดับประเทศนั้นต่างเปิดกิจการมาอย่างยาวนาน

แม้ราคาหุ้นจะไม่หวือหวามาก ส่วนใหญ่อาจจะสร้างผลตอบแทนได้หลายเท่าในเวลาอันสั้น แต่ก็แลกมาด้วยโอกาสสูญหายไปของเงินที่น้อยกว่าเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้มักจะมีผลการดำเนินงานที่ดี และจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

แต่!! ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ต้องย้ำคำเตือนอย่างหนึ่งว่า…

“ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง”

ต่อให้เป็นบริษัทใหญ่แค่ไหน ก็สามารถขาดทุน มีรายได้ลดลงจากเดิม

ส่งผลต่อราคาหุ้นที่อาจจะลดลงตามไปในอนาคต

ซึ่งจุดนี้ไม่มีใครสามารถบอกได้ 100% ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

(ถ้าเขารู้อนาคต เขาก็คงเอาเงินไปซื้อเอง แทนที่จะมานั่งบอกกัน จริงไหม??)

ฉะนั้นในฐานะนักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน

เพราะ “ความรู้” คือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด

ความรู้ในสิ่งที่เราลงทุน สามารถช่วยให้เราเอาตัวรอดได้เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในอะไรก็ตาม…

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนใจดี:

ใครสนใจอยากจะซื้อ-ขายหุ้น แต่ยังไม่มีบัญชีก็ไม่ต้องกังวล

เปิดบัญชีง่ายๆ กับ “บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด” ซื้อขายง่าย ค่าธรรมเนียมถูก แถมไม่มียอดขั้นต่ำด้วย!!

สามารถดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tiscosec.com/th/index.html

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...