Facebook
Twitter
LINE

เรื่องราวของเด็กชายยากจน ที่ไต่เต้าตัวเองจนกลายเป็นมหาเศรษฐีรถบรรทุก…

ย้อนกลับไปในปี 1945 เด็กชาย Masaru Wasami ลืมตาขึ้นมาดูโลก นั่นช่างเป็นช่วงที่ไม่ดีเอาเสียเลย เพราะประเทศญี่ปุ่นเพิ่งแพ้สงครามโลกหมาดๆ

ชีวิตของคนทั่วไปในประเทศช่วงแพ้สงครามใหม่ๆ นั้นไม่ค่อยดีนัก ยิ่งถ้าคุณเป็นคนจนด้วยแล้ว การหาเงินแค่พอประทังชีวิตยิ่งเป็นเรื่องยาก

สำหรับ Wasami ซึ่งตอนอายุ 12 ขวบ แม่ก็ล้มป่วยวัณโรค ตัวเขาเองก็ต้องคอยทำงานพิเศษในร้านขายผัก เพื่อหาเงินช่วยรักษา

จนกระทั่งเขาอายุ 15 ปี จึงตัดสินใจออกจากโรงเรียน พร้อมกับความมุ่งมั่นว่าจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้!!

 

 

ระหว่างช่วงปี 1960-1970 เขาตระเวนทำงานรับจ้างสารพัด ซึ่งอาจจะถือเป็นโชคดีของตัวเองด้วย ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มตั้งตัวได้ และกำลังจะเติบโตอย่างรวดเร็ว งานจึงหาได้ไม่ยากนัก

แต่ถ้าอาศัยแค่ “โชค” อย่างเดียว เขาคงไม่มาถึงจุดนี้..

 

ในช่วงยุค 1970 เขามีโอกาสได้ทำงานเป็นคนขับรถบรรทุก ตอนนั้นเขามีอายุย่างเข้าวัย 30 ปีแล้ว

เขาเริ่มคิดได้ว่า ถ้าหากขับรถบรรทุกไปเรื่อยๆ เขาก็จะได้ค่าแรงเพียงแค่ของตนเองเท่านั้น

แต่หากเขาผันตัวเอง ยอมเก็บเล็กเก็บน้อย ดิ้นรนหารถบรรทุกอีกคันไปรับงาน แล้วจ้างคนอื่นมาขับแทน เขาก็จะได้รับค่าแรงมากยิ่งขึ้น

จุดเปลี่ยนมาถึงตอนที่เขารับงานขนส่งไหมพรม เขาพบว่าพนักงานโรงงานไหมพรมแพ็คสินค้ามาไม่ดี

และนั่นทำให้คนขับรถบรรทุกเหนื่อยขึ้น ที่ต้องมาคอยแพ็คเพิ่มเติม มิฉะนั้นสินค้าก็อาจจะเสียหายระหว่างขนส่ง และลูกค้าปลายทางจะโทษคนขับรถได้

เขานำเรื่องนี้มาบ่นกับเพื่อน และนั่นก็นำไปสู่การจัดตั้งบริษัทชื่อ Maruwa เพื่อบริการรับส่งของเองเสียเลย…

 

ด้วยความคิดริเริ่มตรงนั้น บวกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น พร้อมกับความสามารถการเจรจาต่อรองของตัว Wasami เองด้วย

ภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี เขามีรถบรรทุกในธุรกิจของตนเองมากถึง 100 คัน

ในเวลานั้น บริษัทของเขาคอยรับงานส่งของครบวงจรให้กับซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยายักษ์ใหญ่ และร้านค้าต่างๆ

ตั้งแต่การรับของ เลือกวิธีแพ็คให้เหมาะกับสินค้ารูปแบบต่างๆ มีโกดังพักสินค้า จัดเรียงให้เป็นสัดส่วน และนำของไปส่งถึงสาขาปลายทางโดยไม่เสียหาย

 

นักแสวงหาโอกาสตัวจริง…

ในปี 2017 อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon มีปัญหาเรื่องการส่งของในประเทศญี่ปุ่น

พวกเขาเคยใช้บริการ Yamato แต่แล้วก็เหมือนมีปัญหาเจรจาไม่ลงตัว เรื่องการส่งแบบ “วันเดียวถึง (Same-Day Delivery” เพราะบริษัทขนส่งขอขึ้นราคาค่าส่ง

ซึ่งการส่งแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดของ Amazon ที่ทำให้ลูกค้าทางฝั่งอเมริกานั้นติดใจ และพวกเขาอยากจะให้ที่ญี่ปุ่นมีแบบนี้ด้วย

 

นั่นทำให้ Wasami ถือโอกาสนี้ นำบริษัท Maruwa ของเขา เข้าไปเสนอรับงานดังกล่าวแทน

แต่เขาบอกว่า การเจรจาต้องใช้เวลานานนับปี พร้อมกับระดมความคิดของทีมวางกลยุทธ์ เพื่อหาข้อเสนอที่โดนใจที่สุด

มันยากเพราะอะไร!? เพราะ Amazon มีพัสดุให้ส่งเยอะมาก และต้องทำเวลาให้เร็วด้วย เมื่อมีรอบส่งของมากขึ้น ต้องจ่ายค่าจ้างคนส่งมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนสำคัญอย่างน้ำมัน ก็มีราคาที่สูงขึ้น

ที่จริงการขึ้นราคา Yamato เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล แต่ทาง Amazon รับตรงจุดนั้นไม่ได้

 

ในที่สุด บริษัท Maruwa ก็ได้ข้อสรุปว่าจะไม่ขึ้นราคาจากเดิมที่ Amazon เคยจ่าย แต่พวกเขาก็จะมีข้อแม้ในการจำกัดปริมาณพัสดุที่มากเกินไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงวันเทศกาล ที่จะมีคำสั่งซื้อเยอะเป็นพิเศษ

นั่นหมายความว่า พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายโอทีให้คนส่ง เพื่อแข่งกับเวลา และใช้วิธีให้โบนัสคนส่งตามจำนวนกล่องที่พวกเขาส่งได้แทน

ข้อเสนอนั้น Amazon รับได้ และนั่นทำให้ Wasami คว้างานสำคัญนี้ได้ในที่สุด

 

งานของ Amazon สำคัญต่อพวกเขาอย่างไร!?

รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดราว 15% จาก 74,000 ล้านเยนในปี 2017

เพิ่มขึ้นมาเป็น 85,000 ล้านเยน ในปี 2018

รายได้จากการรับงานขนส่งอีคอมเมิร์ซ ก็คิดเป็นราวๆ 35% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทเลยด้วย

 

เมื่อบริษัทมีกำไร และอนาคตดูสดใส เพราะดูเหมือนว่าการสั่งซื้อออนไลน์จะเติบโตขึ้นทุกปี

ในขณะที่ญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศที่ตลาดอีคอมเมิร์ซมีมูลค่ามหาศาล เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน เท่านั้น

นักลงทุนต่างก็เชื่อมั่นในหุ้นของบริษัท Maruwa จนในปีนี้ หุ้นทะยานขึ้นจาก 1,400 เยนต่อหุ้น มาเป็น 2,800 เยน ได้ภายในเวลาประมาณ 10 เดือน

ทรัพย์สินของผู้ก่อตั้งอย่าง Masaru Wasami ที่ถือหุ้นราว 60% ของบริษัท ก็พุ่งทะยานขึ้นสองเท่า จนทำให้เขากลายเป็น Billionaire

หรือที่เรียกว่าเศรษฐีพันล้านเหรียญ (30,000 ล้านบาท) ได้สำเร็จ…

 

 

เรื่องราวของ Masaru Wasami สอนอะไรเรา..

หลายคนอาจจะมองว่า บริษัทของ Wasami โชคดีที่ได้ทำธุรกิจรับส่งของในตอนที่เศรษฐกิจเติบโตเร็ว

แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้พึ่งแต่ดวงชะตา เพราะเขาคือ “นักแสวงหาโอกาส” ที่พร้อมมุ่งหาทุกโอกาสตรงหน้า

ตั้งแต่เด็ก เขาก็มองหาโอกาสที่จะหาเงินมาช่วยเป็นค่ารักษาแม่ที่ป่วย

โตมาทำงานขับรถบรรทุก เขาก็มองเห็นโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจ

เมื่อทำธุรกิจ เขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะเสนอตัว ไปเจรจารับงานขนส่งประจำให้ห้างร้านใหญ่ๆ

กระทั่งในวัย 70 ปี เมื่อมีโอกาสใหม่ๆ จากเว็บไซต์ต่างชาติเข้ามา เขาก็ยังพาตัวเองเข้าไปหาโอกาสนั้น

 

แล้วตัวเราเองล่ะครับ เรามีโอกาสผ่านหน้ามากี่ครั้งแล้ว เราคว้ามันได้กี่ครั้ง เราปล่อยมันหลุดมือไปแล้วกี่ครั้ง

บางที การหาโอกาสจนเจอ และไขว่คว้ามันไว้

อาจจะเป็นข้อแตกต่างระหว่าง “คนที่สำเร็จ” กับ “คนธรรมดา” ก็เป็นไปได้เช่นกัน…

 

เรื่องราวของเด็กชายยากจน ที่ไต่เต้าตัวเองจนกลายเป็นมหาเศรษฐีรถบรรทุก…ย้อนกลับไปในปี 1945 เด็กชาย Masaru Wasami…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2019

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-10-10/ex-truck-driver-becomes-a-billionaire-with-some-help-from-amazon

https://gulfnews.com/world/ex-truck-driver-becomes-a-billionaire-with-some-help-from-amazon-1.1570967249548

https://www.marketscreener.com/business-leaders/Masaru-Wasami-0DM795-E/biography/

http://contents.xj-storage.jp/xcontents/AS96767/a31d82d6/08b8/414d/82ea/697715780fdd/20190612163203185s.pdf

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...