Facebook
Twitter
LINE

กรณีศึกษา.. ก้าวที่ผิดพลาดของ Dyson บริษัทเครื่องดูดฝุ่นแสนล้าน!!

หลายคนน่าจะพอรู้จัก Dyson แบรนด์เครื่องดูดฝุ่นเกรดพรีเมียมจากประเทศอังกฤษ

แต่ถ้าไม่เคยได้ยินล่ะก็ ก่อนที่เราจะพูดถึงก้าวที่ผิดพลาด เราจะพาคุณย้อนประวัติสักเล็กน้อยครับ…

 

เครื่องดูดฝุ่น Dyson ตั้งชื่อตามตระกูลของผู้ก่อตั้ง James Dyson เขาก็เป็นคนหนุ่มทั่วไปที่จบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์

แต่สิ่งที่แตกต่างไปก็คือ วันหนึ่งในช่วงยุค 1970 เขาซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาใช้งาน

และเขาต้องหัวเสียกับมัน เมื่อพบว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบที่ใช้ถุงเก็บฝุ่นนั้น เมื่อดูดไปมันจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แถมตอนถอดถุงมาทิ้ง ยังทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายอีกรอบ

ถ้าเราหัวเสียกับเครื่องดูดฝุ่น เราจะทำยังไง!? เอาไปเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นรึเปล่า

แต่สำหรับ James เขานำความหัวร้อนนั้นไปขบคิด และตั้งใจจะสร้างเครื่องที่ดีกว่าให้ได้

ในปี 1984 หลังจากการทดลองผลิตตัวต้นแบบราวๆ 5,127 แบบ ในช่วงเวลา 5 ปี ในที่สุดเขาก็สามารถคิดค้นเครื่องดูดฝุ่นพลังสูง ที่ไม่ต้องใช้ถุงเก็บฝุ่น

 

James Dyson ในปี 1983

 

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบริษัท Dyson จนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 30 ปี

ตอนนี้พวกเขากลายเป็นบริษัทใหญ่ที่ผลิตอุปกรณ์อย่าง เครื่องดูดฝุ่น ไดร์เป่าผม เครื่องเป่ามือแห้ง และพัดลม

ในปีล่าสุดบริษัทสามารถสร้างยอดขายกว่า 170,000 ล้านบาท และมีกำไรกว่า 42,000 ล้านบาท

ขณะที่ James Dyson ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก และยังได้รับการประดับยศ Sir James ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทที่สร้างทั้งชื่อเสียงและรายได้ให้แก่อังกฤษอีกด้วย

 

ส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทยังแข็งแกร่ง และทำสินค้าที่ตอบโจทย์คนได้ตลอด ก็เพราะ Dyson ทุ่มเงินให้กับการวิจัยและพัฒนาไปจำนวนมาก

มีรายงานว่า บริษัทให้งบวิจัยและพัฒนาสูงถึงเดือนละ 1,200 ล้านบาท โดยเฉพาะช่วงหลัง ที่จะเน้นการพัฒนาด้านหุ่นยนต์และ AI

มันฟังดูเป็นเรื่องดี ถ้าพวกเขาจะพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ ที่รับคำสั่ง และทำให้บ้านคุณสะอาดเอี่ยมได้โดยที่ไม่ต้องลงมือเอง

เชื่อว่าถ้าเปิดตัวสินค้าดังกล่าว คนที่ยังคงภักดีกับแบรนด์ ก็น่าจะอยากลองอะไรใหม่ๆ และสร้างยอดขายได้ดีไม่น้อย

 

 

แล้วอะไรคือความผิดพลาดของ Dyson!?

พวกเขาเป็นบริษัทที่ทำสินค้าซึ่งใช้ “มอเตอร์” ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพัดลม เครื่องดูดฝุ่น หรือไดร์เป่าผมก็ตาม

จุดนี้ทำให้พวกเขามองว่า บริษัทอาจจะสามารถสร้าง “รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ จึงมีแกนหลักที่แบตเตอรี่และมอเตอร์เช่นกัน

ในเมื่อ Tesla บริษัทโนเนมยังทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาวางขายได้

แถมตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า ก็เติบโตขึ้นมาอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

และเหตุใด บริษัทที่มีชื่อเสียงมาก่อนอย่าง Dyson จะทำรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ล่ะ!?

 

ในเดือนกันยายน ปี 2017 ทาง James Dyson จึงประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทพวกเขาจะหันมาลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว

Sir James ยอมควักเงินส่วนตัวกว่า 80,000 ล้านบาท เพื่อเร่งวิจัย พัฒนา และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าวางขายให้ได้ในปี 2020

มีการเข้าซื้อบริษัทพัฒนาแบตเตอรี่ เพื่อให้พวกเขาได้มีเทคโนโลยีนี้มาครอบครอง

ซื้อที่ดิน 1,300 ไร่ ซึ่งเป็นลานบินเก่า มาเป็นโรงงานและสนามทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

จ้างอดีตพนักงานของ Tesla และพนักงานส่วนอื่นๆ รวม 400 คน เพื่อมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้เสร็จใน 3 ปี

รวมถึงการประกาศสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สิงคโปร์ ซึ่งนั่นเป็นข่าวฮือฮาในบ้านเราอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะเท่ากับว่ารถยนต์ไฟฟ้าได้เกิดขึ้นในอาเซียนแล้ว!!

 

ข่าว Dyson ตั้งโรงงานในสิงคโปร์ กลายเป็นประเด็นฮือฮา!!

 

แต่แล้ว หลังจากทำมากว่า 2 ปี..

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2019 พวกเขาประกาศว่าจะยกเลิกการผลิตและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด

โดยให้เหตุผลว่า Dyson ไม่สามารถทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขา มีประสิทธิภาพดี และราคาคุ้มค่าในระดับที่คนทั่วไปจับต้องได้

ถ้าพวกเขาดิ้นรนทำต่อไป อาจส่งผลกระทบไปยังบริษัทซึ่งทำผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นได้ดีอยู่แล้ว ให้แย่ตามไปด้วย

บริษัทจึงจำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม ยอมรับว่าการก้าวเข้ามาในวงการยานยนต์ไฟฟ้า คือสิ่งที่ผิดพลาด

 

บทเรียนจาก James Dyson และรถยนต์ไฟฟ้าของเขา

แม้เงิน 80,000 ล้านจะหายวับไปกับตา แต่ก็ไม่ได้แปลว่า Sir James จะเป็นคนโง่เง่าเสียเมื่อไร

เพราะอย่างน้อยเขาก็คือมหาเศรษฐีอัจฉริยะ ที่สร้างแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นด้วยตนเอง จนมีทรัพย์สินกว่า 400,000 ล้านบาท

และก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเศรษฐีระดับนี้ จะอยากคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อยากเดินบนทางที่ต่างไปจากเดิมบ้าง

มันแสดงให้เห็นว่าเขายังคงมีไฟ ยังคงอยากเรียนรู้แบบไม่หยุดนิ่ง แม้จะอยู่ในวัย 70 ปีแล้วก็ตาม

 

“อัจฉริยะ” ไม่จำเป็นว่าต้องทำสำเร็จไปเสียทุกเรื่อง ไม่จำเป็นว่าไม่เคยล้มเหลวเลย

บางครั้ง ความผิดพลาดก็เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้เกิดความสำเร็จในภายหลัง

เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานไม่ได้ 5,127 แบบ ก็ทำให้เกิดเครื่องที่ใช้งานได้จริงขึ้นมา 1 แบบ

ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีแสนล้านในท้ายที่สุด…

 

กรณีศึกษา.. ก้าวที่ผิดพลาดของ Dyson บริษัทเครื่องดูดฝุ่นแสนล้าน!!หลายคนน่าจะพอรู้จัก Dyson…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2019

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

https://www.bloomberg.com/billionaires/profiles/james-dyson/

https://www.bloomberg.com/news/features/2019-10-11/dyson-s-expensive-road-from-electric-to-invisible-cars?srnd=premium-asia

https://en.wikipedia.org/wiki/Dyson_(company)

https://en.wikipedia.org/wiki/James_Dyson

กรณีศึกษา เมื่อผู้สร้าง ‘เครื่องดูดฝุ่นระดับโลก’ พับโปรเจกต์ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ เพราะธุรกิจนี้โหดเกินไป…

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...