ข่าวการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่สมุทรสาคร รวมกว่า 548 ราย กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจที่สุดของไทยวันนี้
ล่าสุดมีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ รวมถึงจำกัดการเดินทางบางส่วน ซึ่งเทียบได้กับการล็อกดาวน์ขนาดย่อม
นำมาสู่คำถามที่ว่า ถ้าสถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น มีการล็อกดาวน์แบบเข้มข้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสมุทรสาครเพียงใด? แล้วจังหวัดนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยมากแค่ไหน?
ทีมงานเลยขอสรุปข้อมูลมาคร่าวๆ เพื่อตอบคำถามนี้ครับ…
– จังหวัดสมุทรสาคร มี “ผลิตภัณฑ์มวลรวม” ประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นอันดับ 6 ของประเทศ รองเพียงกรุงเทพฯ ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา
มูลค่า 400,000 ล้านบาท คิดเป็นราวๆ 2.5% ของ GDP ประเทศไทยในปีที่ผ่านมา
– สมุทรสาคร มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรสงคราม และราชบุรี ซึ่งถ้ารวมทั้ง 5 จังหวัด จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันถึง 7 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเกือบ 50% ของ GDP ไทย!!
ซึ่งในแง่ร้ายหากสถานการณ์ลุกลามจนต้องล็อกดาวน์ทั้งหมด จะส่งผลกระทบหนักต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
– ให้สมุทรสาคร ติดท็อปเทนจังหวัดนำส่งภาษีสูงสุดของไทย อยู่ในอันดับที่ 8 ด้วยมูลค่าภาษีจัดเก็บได้ปีละประมาณ 16,000 ล้านบาท
– เมื่อนำผลิตภัณฑ์มวลรวมของสมุทรสาคร มาคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อคน จะทำให้สมุทรสาครติดอันดับ 8 ของจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุดที่ 32,485 บาทต่อเดือน
– ถึงแม้สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าสมุทรสาครมีประชากรราว 550,000 คน
แต่ข้อมูลจากกรมแรงงาน ระบุว่าถ้ารวมประชากรแฝงแล้ว จะมีประชากรในพื้นที่ถึง 970,000 คน
ที่น่าสนใจก็คือ มีแรงงานต่างชาติในพื้นที่สูงถึง 280,000 คน (ซึ่งประมาณ 97% นั้นเป็นแรงงานถูกกฎหมาย)
– สาเหตุที่มีประชากรแฝงสูง เป็นเพราะสมุทรสาครเป็นที่ตั้งของแหล่งงาน ทั้งอุตสาหกรรมการผลิต การประมง และการเกษตร
ข้อมูลล่าสุดในเดือนธันวาคม 2563 มีโรงงานในสมุทรสาคร 6,082 แห่ง โดยหลักๆ จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมพลาสติก-โลหะ ถึง 30% ของโรงงานทั้งหมด
– นอกจากมีโรงงานจำนวนมากแล้ว ในช่วงหลังยังดึงดูดโรงงานใหม่ๆ มาเปิดเพิ่มได้มากที่สุดอีก เพราะสมุทรสาครครองแชมป์โรงงานเปิดใหม่ในปี 2562 ที่ผ่านมา
โดยมียอดเปิดโรงงานใหม่ 334 แห่ง ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้กว่า 14,000 ล้านบาท
– ในภาคการเกษตร สมุทรสาครมีการทำนาข้าว สวนผลไม้ สวนมะพร้าว ในตอนเหนือของจังหวัด ส่วนตอนใต้ที่ติดทะเลนั้นสมัยก่อนขึ้นชื่อเรื่องการทำนาเกลือ
แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนไปทำบ่อกุ้งและเลี้ยงปลามากยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งต้องมีการจ้างแรงงานจากพื้นที่อื่น ส่วนหนึ่งก็คือแรงงานต่างชาติทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย
ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่า ข่าวการติดโควิด-19 ในรอบนี้ ก็เป็นข่าวดังเมื่อพบเจ้าของแพกุ้งแห่งหนึ่งติดเชื้อ และคาดว่าติดมาจากแรงงานต่างชาติชาวพม่านั่นเอง
จากข่าวการติดเชื้อกว่า 500 คนนั้น ล่าสุด (อัปเดต 20 ธันวาคม 08.00 น.) ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกมาตรการต่างๆ ดังนี้..
– สั่งปิดห้างสรรพสินค้า โรงเรียนทุกโรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย สนามกีฬา สนามมวย สถานที่รับเลี้ยงเด็ก สวนสนุก ร้านเกม ฟิตเนส ร้านเสริมสวย และสถานบริการอื่นๆ
– ร้านอาหารเครื่องดื่มเปิดได้เฉพาะแบบซื้อกลับ
– ร้านสะดวกซื้อ เปิดได้ตั้งแต่ 05.00 น. – 22.00 น.
– ห้ามคนต่างด้าว เข้า-ออก เขตจังหวัดโดยสิ้นเชิง
– คนไทย สามารถออกไปพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องการได้ แต่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แจ้งรายชื่อและจุดหมายปลายทางด้วย
หลังจากนี้เราต้องมาติดตามกันต่อไปว่า ทางภาครัฐจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมาอีกหรือไม่?
สำหรับคุณเองมีความคิดเห็นอย่างไร ต่อข่าวการติดเชื้อใหม่ในรอบนี้? และคิดว่าควรมีมาตรการดำเนินการอย่างไรต่อ? ร่วมแบ่งปันความคิดเห็น คุยกันในคอมเมนต์ได้เช่นเคยครับ..
ที่มา:
http://reg.diw.go.th/executive/Prov3.asp?prov=74
https://reg4.pwa.co.th/gpp/index.php
https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/lmi_ratchaburi_th/846e07c72a6587359a0fe1a0de0e4c88.pdf
https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/alien_th/427e1252b1e7717c9a0d99db53184a9e.pdf
http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx
www.prachachat.net/local-economy/news-413153
Advertisement
