หลังจากมีข่าวเรื่องปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย
โดยเฉพาะการกู้ซื้อหลังที่ 2 ขึ้นไป จะโดนบังคับให้วางเงินดาวน์มากขึ้นกว่าเดิม 10-30%
ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ได้สรุปเกณฑ์ดังกล่าวออกมาแล้ว
เพจ Billionaire Mindset จึงขอสรุปให้ทุกคนได้เข้าใจกันครับ…
ทำไมต้องมีเกณฑ์สินเชื่อแบบใหม่??
ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เหตุผลว่าการปรับกฎเกณฑ์ให้เหมาะสม จะมีผลดีหลายด้าน
ทั้งเป็นการทำให้ธนาคารต่างๆ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
ป้องกันปัญหาการปล่อยกู้ง่ายจนเกินไป ซึ่งนอกจากจะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเฟ้อ จนเกิดเป็นฟองสบู่เหมือนวิกฤตเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้น
ยังทำให้คนทั่วไปที่จะซื้อบ้าน ต้องซื้อในราคาแพงกว่าราคาที่ควรจะเป็นอีกด้วย
เกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยนี้ จะมีผลกับใคร??
สำหรับกลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบต้องวางเงินดาวน์มากขึ้น มี 2 กลุ่มหลักก็คือ
– คนที่ยังผ่อนที่อยู่อาศัยหลังแรกไม่หมด แล้วกู้ซื้อบ้านหลังที่สอง
– กลุ่มคนที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคาเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ว่าจะมีบ้านมาก่อนหรือไม่ก็ตาม
เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่าถ้าคุณซื้อบ้านหลังแรกไม่เกิน 10 ล้านบาท ก็ยังมีสิทธิ์ไม่ต้องวางเงินดาวน์
ถ้าผ่อนหลังแรกเสร็จแล้ว ซื้อบ้านหลังที่สองไม่เกิน 10 ล้านบาท ก็ไม่ต้องวางเงินดาวน์เช่นกัน
รวมถึงกลุ่มคนที่รีไฟแนนซ์ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยถูกลง และกลุ่มที่กู้สร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
เกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบใหม่ มีอะไรบ้าง??
เกณฑ์ใหม่นี้ใช้กับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้นะครับ
1. ซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก เกณฑ์เงินดาวน์ยังคงเป็น 0-10% เหมือนกฎเกณฑ์เดิม
2. สำหรับคนซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สอง ถ้ากำลังผ่อนหลังแรกอยู่ และผ่อนมาไม่เกิน 3 ปี ต้องวางเงินดาวน์ 20%
แต่ถ้าผ่อนหลังแรกมาเกิน 3 ปีแล้ว ลดวงเงินดาวน์เหลือ 10% ของราคาเต็ม
3. สำหรับคนซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สามขึ้นไป จะต้องวางเงินดาวน์ 30% ของราคาเต็ม
เริ่มบังคับใช้เมื่อไร??
เกณฑ์ใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้หลังจากวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2562
เท่ากับว่าใครซึ่งทำสัญญากู้หลังจากวันที่ 1 เมษายนปีหน้า ก็จะเข้าข่ายต้องวางเงินดาวน์ตามที่กำหนด
(แต่มีข้อยกเว้นให้เล็กน้อย สำหรับคนที่ทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” ก่อนวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
แม้จะทำสัญญากู้หลังวันเริ่มบังคับใช้ ก็ยังได้สิทธิ์ไม่ต้องวางเงินดาวน์)
สรุป…
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ธนาคารแห่งประเทศไทยหวังว่าเกณฑ์ดังกล่าว จะทำให้การปล่อยกู้สินเชื่อเป็นไปอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น
และนั่นจะส่งผลดีกับทั้งเศรษฐกิจ ที่ไม่เกิดฟองสบู่ราคาอสังหาริมทรัพย์มากจนเกินไป
นักลงทุน ก็ประเมินความเสี่ยงได้อย่างรัดกุม ไม่ลงทุนเกินตัวจนเกิดปัญหาภายหลัง
ผู้ซื้อที่จะอยู่อาศัยเอง ก็ได้ราคาไม่เฟ้อและไม่เกินความเป็นจริง
คุณเห็นด้วยกับเกณฑ์ใหม่นี้หรือไม่?? คิดว่ามีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร?? สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในคอมเม้นต์ได้เลยนะครับ…
.
ติดตาม Billionaire Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionairethai/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/BillionaireThai
– ถ้าเล่นแต่ไลน์ ก็ส่งบทความให้คุณทุกวันที่ @BillionaireMindset
– ติดตามเพจ Billionaire Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา:
ธนาคารแห่งประเทศไทย – Bank of Thailand
Advertisement