เราทราบกันดีว่า ปัจจุบันเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกก็คือ Jeff Bezos ผู้มีทรัพย์สินกว่า 142,000 ล้านเหรียญ
สิ่งที่น่าสนใจคือ หากเราย้อนกลับไปในปี 2015 ทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านเหรียญเท่านั้น
เวลาผ่านไปเพียง 5 ปี ทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า!!
แต่ยุคนี้.. เรื่องของเศรษฐีแสนล้านเหรียญ กลายเป็นเรื่องไม่น่าตื่นเต้นเร้าใจเท่าไรแล้ว
จึงมีการประเมินกันว่า แล้วใครล่ะ.. ที่จะได้เป็นเศรษฐีล้านล้านเหรียญคนแรกของโลก!?
แม้จะต้องเสียทรัพย์สินจากการหย่ากับภรรยาประมาณ 38,000 ล้านเหรียญ แต่นั่นไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของ Jeff ร่วงเลย
โดยเฉพาะในช่วงหลัง ที่ธุรกิจไอที-อีคอมเมิร์ซ มีการเติบโตที่รวดเร็ว ทั้งรายได้ ผลกำไร และราคาหุ้น
ทำให้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทรัพย์สินของเขาโตขึ้นอีกปีละประมาณ 34%
และถ้าทรัพย์สินยังคงเติบโตไปในอัตราเท่านี้ เขาจะกลายเป็นเศรษฐี “ล้านล้านเหรียญ” คนแรกของโลกในปี 2026
แต่ Jeff ก็ไม่ใช่เพียงคนเดียว ที่กำลังจะกลายเป็นเศรษฐีล้านล้านเหรียญ
เพราะถ้าเศรษฐีระดับโลกยังคงมีอัตราการเพิ่มขึ้นของทรัพย์สินในอัตราเดิม เราก็จะได้เห็น…
ปี 2027 Xu Jiayin แห่งเครือเอเวอร์แกรนด์ อสังหารายใหญ่ของจีน กลายเป็นเศรษฐีล้านล้านเหรียญ
ในปี 2030 เป็นคราวของ Jack Ma เจ้าของอลิบาบา
ส่วนปี 2033 จะมีเศรษฐีล้านล้านเหรียญเพิ่มมาถึง 3 คน ประกอบด้วย Ma Huateng แห่งเทนเซนต์ Mukesh Ambani นักธุรกิจอินเดีย และ Bernard Arnault เจ้าของหลุยส์ วิตตอง
ปี 2036 นั้น Mark Zuckerberg จะตามเข้ามาติดด้วย และกลายเป็นเศรษฐีล้านล้านเหรียญอายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัย 51 ปี
ปี 2040 เป็นคิวของ Steve Ballmer ผู้ถือหุ้นของไมโครซอฟต์
ปี 2043 เป็น Michael Dell ผู้ก่อตั้งเดลล์คอมพิวเตอร์
จากนั้นปี 2051 ก็จะถึงคราวของสองคู่หูจาก Google อย่าง Sergey Brin และ Larry Page
ความน่าสนใจก็คือ แม้หลายคนจะมองว่าเศรษฐกิจไม่ดีนัก แต่ตลาดหุ้นที่กำลังขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะของ Jeff Bezos ที่หุ้น Amazon แทบจะไม่กระทบอะไรจากวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้เลย แถมยังเติบโตขึ้นอีกเสียด้วยซ้ำ
เมื่อตอนต้นปี หุ้น Amazon ยังมีราคาอยู่ที่ 1,847 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ปัจจุบัน หุ้น Amazon มีราคาที่ 2,388 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 30% ภายในเวลาเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น!!
เท่ากับว่าในอนาคตอันใกล้ หากยังไม่เกิดวิกฤติกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ราคาหุ้นของธุรกิจต่างๆ ก็จะยังคงขึ้นต่อไป และมหาเศรษฐีก็จะรวยขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
และยิ่งเรามองมาที่นโยบายทางการเงินของรัฐบาลและธนาคารกลาง ซึ่งทำทุกวิถีทางเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ให้ยังคงเดินหน้าต่อไปได้
โดยเฉพาะการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง (แม้หลายคนจะมองว่าเป็นการบิดเบือนเศรษฐกิจก็ตาม)
ทำให้ตลาดหุ้นในปัจจุบัน ที่วิ่งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2009 จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 11 ปีแล้ว ยังไม่เกิดวิกฤติครั้งใหญ่เลย
มันจึงถูกเรียกว่าเป็น “ตลาดกระทิง” หรือการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว
ไม่แน่ว่า.. เราอาจจะเห็น Jeff กลายเป็นเศรษฐีล้านล้านเหรียญ เร็วกว่าปี 2026 ที่ประเมินไว้อีกก็เป็นได้!!
คุณคิดอย่างไรกันบ้าง!?
เราทราบกันดีว่า ปัจจุบันเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกก็คือ Jeff Bezos ผู้มีทรัพย์สินกว่า 142,000 ล้านเหรียญสิ่งที่น่าสนใจคือ…
โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2020
ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit
– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา:
www.comparisun.com/resources/the-trillion-dollar-club/
www.ladbible.com/news/news-jeff-bezos-could-become-worlds-first-trillionaire-by-2026-20200514
www.catdumb.tv/jeff-bezos-trillionaire-339/
www.businessinsider.com/how-rich-is-jeff-bezos-mind-blowing-facts-net-worth-2019-4
Advertisement