เมื่อธนาคารโลกประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ อาจหดตัวได้ถึง -5.0% หนักที่สุดในอาเซียน

ในกรณีเลวร้ายที่สุด เศรษฐกิจไทยปี 2020 นี้จะหดตัว -5.0%

แล้วในกรณีที่เราจัดการกับโควิด-19 ได้ดี เศรษฐกิจไทยเราปีนี้มีโอกาสกลับมาเติบโตงั้นหรือ!?

คำตอบก็คือ.. ไม่

เพราะธนาคารโลกประเมินว่า ต่อให้จัดการได้ดีและฟื้นตัวเร็ว ยังไงปีนี้เศรษฐกิจไทยก็จะยังคง -3.0% เช่นกัน

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น!?

 

อ้างอิงจากรายงานฉบับล่าสุดที่ชื่อว่า East Asia and Pacific in the Time of COVID-19 หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ประเมินว่าประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ได้รับผลกระทบแค่ไหนจากโควิด-19

เริ่มจากประเทศหลายคนสนใจกันอย่างเช่น “จีน”

ตั้งแต่ปี 1991 เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว ที่เศรษฐกิจจีนไม่เคยเติบโตต่ำกว่าปีละ 6% มาโดยตลอด

แต่จากวิกฤติรอบนี้ จะทำให้จีนมีเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 2.3% หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ถูกประเมินไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.1% เท่านั้น

แม้จะแทบไม่เติบโตเลย แต่ในมุมมองของคนทำธุรกิจแล้ว ย่อมดีกว่าเศรษฐกิจหดตัว

 

ทีนี้เรากลับมามองที่ประเทศแถบอาเซียนของเรากันบ้าง รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ ก็ได้ประเมินสถานการณ์ที่ดีและเลวร้ายที่สุด ของประเทศแถบอาเซียนไว้เช่นกัน

 

ในกรณีที่ดีนั้น แต่ละประเทศจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจดังนี้

เวียดนาม 4.9%

ลาว 3.6%

ฟิลิปปินส์ 3.0%

เมียนมาร์ 3.0%

กัมพูชา 2.5%

อินโดนีเซีย 2.1%

มาเลเซีย -0.1%

ไทย -3.0%

 

ขณะที่กรณีเลวร้ายที่สุด การขยายตัวทางเศรษฐกิจในหลายประเทศจะติดลบ เรียงลำดับกันไปดังนี้

เวียดนาม 1.5%

กัมพูชา 1.0%

ลาว 2.2%

เมียนมาร์ 2.0%

ฟิลิปปินส์ -0.5%

อินโดนีเซีย -3.5 %

มาเลเซีย -2.6%

ไทย -5.0%

 

 

ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม สถานการณ์จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วหรือจะแย่ที่สุด ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในประเทศที่จะเกิดการหดตัวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน

นั่นเพราะรายงานฉบับนี้ สะท้อนความจริงที่ว่า ไทยพึ่งพารายได้จากการส่งออก-การท่องเที่ยว สูงถึง 70-75%

สิ่งเหล่านี้หล่อเลี้ยงประเทศ ก่อให้เกิดการผลิต การจ้างงาน เกิดการหมุนเวียนของเงินมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี

 

การท่องเที่ยวนั้นจะเห็นได้ชัดเจน เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรค ประชาชนต้องกักตัว การเดินทางท่องเที่ยวถูกงด

สิ่งเหล่านี้กระทบไปถึงทุกธุรกิจในวงการท่องเที่ยว ทั้งสายการบิน รถโดยสาร โรงแรม หรือกระทั่งร้านค้าที่ขายของ

ขณะเดียวกัน วิกฤตินี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย แต่เมื่อเป็นวิกฤติทั่วโลก ก็ย่อมทำให้การเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว

ส่งผลให้อุตสาหกรรมโดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดโลก ทั้งจีน ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์ของโรคโควิด-19 นั้น ถูกมองว่าเป็น “Unexpected shocks” เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด แต่กลับมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจน

 

สิ่งที่พอจะมองเป็นแง่ดีได้บ้าง…

อย่างไรก็ตาม การหดตัวทางเศรษฐกิจนั้นเป็นเรื่องแย่ แต่หากการควบคุมโรคระบาดนั้นทำได้ค่อนข้างดีในปีนี้

ปี 2021 เศรษฐกิจไทยนั้นจะยังคงกลับมาเติบโตในระดับ 4.0% ได้ (หรืออย่างแย่ก็ยังโตขึ้น 3.0% เช่นกัน)

นั่นเป็นเพราะทั้งภาคการผลิตและการส่งออก แม้จะมีบางส่วนที่ต้องปิดตัวไปจากภาระที่รับไม่ไหวในปีนี้ แต่ยังคงมีหลายธุรกิจที่ยังไปต่อได้ และพร้อมที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ในปีถัดไป

แง่ดีอีกอย่างก็คือ พื้นฐานของภาคเอกชนไทยยังถือว่าแข็งแกร่ง ธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงมีพื้นฐานดี สถาบันการเงินยังคงมีความเข้มแข็ง

ขณะเดียวกันประเทศไทยก็มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 6.6 ล้านล้านบาท มากเป็นอันดับ 12 ของโลก ซึ่งอาจจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญ หากมีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ

 

แต่.. ยังมีปัจจัยที่น่ากังวล

ปัจจัยที่น่ากังวลคือปัญหาที่ฝังอยู่กับสังคมไทยมานาน นั่นก็คือ “คนจน” และ “ความเหลื่อมล้ำ”

แม้ว่าภาคเอกชนโดยเฉพาะธุรกิจยักษ์ใหญ่จะยังคงเข้มแข็ง แต่ปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำก็เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี

หากอ้างอิงข้อมูลจาก Credit Suisse ในปี 2018 จะพบว่าคนรวยที่สุด 1% ในประเทศ ครอบครองทรัพยากรสูงถึง 66%

และตัวเลขดังกล่าว ก็มีแนวโน้มเพิ่งสูงขึ้นในอนาคต

นั่นแปลว่า แม้ค่าเฉลี่ยของประเทศจะรวยขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เป็นในลักษณะที่คนรวยนั้นรวยขึ้น ขณะที่คนจนก็จะจนลงได้เช่นกัน

สอดคล้องกับรายงานนี้ของธนาคารโลก ที่มองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมถึงจีน กำลังจะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องคนจนที่เพิ่มขึ้น

คนจนในที่นี้ คือคนที่ประเมินว่าจะมีรายได้ต่ำกว่า 5.5 ดอลลาร์ต่อวัน (165 บาท) ซึ่งอาจจะพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 11 ล้านคน

 

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ลองย้อนกลับมาถามตัวเองดูสิครับว่า…

ตอนนี้เราทำงาน ทำธุรกิจอะไร แล้วเรื่อง “Unexpected shocks” ที่ชื่อว่า COVID-19 เนี่ย ส่งผลกระทบกับเรามากแค่ไหน!?

มันจะกระทบแค่สั้นๆ หรือจะมีผลระยะยาว แล้วเราจะมีโอกาสฟื้นกลับมาเมื่อไร!?

ตอนนี้เราทำอะไรได้บ้าง เราปรับตัวเองเพื่อสู้กับเรื่องนี้ไปมากแค่ไหนแล้ว!?

ลองมาร่วมคิด ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และเล่าให้ฟังได้ในคอมเมนต์นะครับ….

 

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

https://www.facebook.com/WorkpointNews/posts/1250770331958909

https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.KD.ZG?locations=CN-TH

https://openknowledge.worldbank.org/handle/10986/33477

https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_income_equality

https://www.aseantoday.com/2019/01/thailands-wealth-inequality-is-the-highest-in-the-world-what-does-this-mean-for-upcoming-elections/

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...