Facebook
Twitter
LINE

ล่าสุดราคาหุ้นของ Tesla อยู่ที่หุ้นละ 780 ดอลลาร์สหรัฐฯ

มันน่าสนใจมาก หากเทียบกับก่อนหน้าที่เพียงวันเดียว ราคาหุ้นยังอยู่ที่ 650 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 20%

แต่มันจะยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก เมื่อคุณได้ทราบว่าแค่ภายในช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเจ้านี้ มีราคาเพิ่มขึ้นมากว่า 4 เท่า!!

สมมติว่าคุณลงทุน 1 ล้านบาท เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีก่อน

ตอนนี้ เงินจะงอกเงยเป็นประมาณ 4 ล้านบาททันที…

แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Tesla ราคาพุ่งมาได้ขนาดนี้!? ท่ามกลางข้อสงสัยที่ว่า “ราคาหุ้น” มันสะท้อนอนาคตของบริษัท หรือแท้จริงจะเป็นเพียงการ “ปั่นหุ้น” กันแน่!?

 

ราคาหุ้น Tesla ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นในปี 2010

 

ผลประกอบการที่มีกำไร “สองไตรมาส” ติดต่อกัน…

สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารธุรกิจ คงจะรู้จักชื่อของ Tesla ในฐานะบริษัทที่ยังคงไม่สามารถทำกำไรได้ และมีแต่ “ความฝัน” กับ “อนาคต” มาขายให้กับนักลงทุน

เฉพาะในปี 2018 นั้น Tesla ขาดทุนไปมากเกือบ 30,000 ล้านบาท

พอเข้าปี 2019 ในช่วงสองไตรมาสแรก บริษัทก็ยังคงมีผลประกอบการที่ขาดทุน

ไตรมาสแรก ขาดทุนไปประมาณ 22,000 ล้านบาท

ไตรมาสสอง ขาดทุนเข้าไปอีก 12,500 ล้านบาท

เพียงแค่ครึ่งปีแรก ขาดทุนไปแล้ว 34,000 ล้าน มากกว่าขาดทุนของปีก่อนทั้งปี นั่นยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ว่า “ขายฝัน” เข้าไปใหญ่

ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัท ก็ค่อยๆ ลดลง ตั้งแต่ 350 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงต้นปี เหลือเพียงราวๆ 185 ดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางปี

ลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง!!

 

จนกระทั่งเข้าสู่ไตรมาสที่สามของปี บริษัทรายงานผลประกอบการออกมาเป็น “กำไร” ได้อีกครั้ง แม้จะเป็นตัวเลขราวๆ 4,500 ล้านบาท

และล่าสุด กำไรจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว 3,200 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีผลกำไรติดต่อกันถึงสองไตรมาส

แต่จะบอกว่า ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเพราะบริษัททำกำไรติดต่อกันได้งั้นเหรอ!? ดูจะเป็นการรีบด่วนสรุปไปหน่อย

เพราะถ้าเรามองย้อนกลับไปดูดีๆ ช่วงสองไตรมาสหลังของปี 2018 บริษัทก็ทำกำไรได้ติดต่อกันสองงวด แต่ทำไมราคาหุ้นกลับไม่เพิ่มขึ้นล่ะ!?

 

เราจึงต้องมาดูเหตุผลสนับสนุนหลักอีกข้อที่สำคัญ… นั่นก็คือ “โรงงานในประเทศจีน”

ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะทราบข่าวว่า Tesla นำเงินไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น

โรงงานดังกล่าว จะทำการผลิตรถ Tesla Model 3 รถเก๋งซีดานและ Model Y รถเอสยูวี สองรุ่นที่ตั้งเป้าว่านี่คือ “รถตลาด” ที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้ และจะสร้างยอดขายมหาศาล

โรงงานดังกล่าวแล้วเสร็จในช่วงปลายปี จนกระทั่งพร้อมส่งมอบรถคันแรกได้ในเดือนธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา

นั่นแสดงว่า “การลงทุนครั้งใหญ่” ของบริษัท ได้ผ่านไปแล้ว (แม้จะมีแผนเปิดโรงงานในเยอรมนีเพิ่มเติมในอนาคตก็ตาม)

และหลังจากนี้ ทั้งโรงงานที่สหรัฐอเมริกา และจีน จะสามารถผลิตรถส่งตามความต้องการของลูกค้าได้

ในปี 2018 นั้น Tesla ส่งมอบรถไปได้ราวๆ 245,000 คัน

พอมาปี 2019 บริษัทส่งมอบรถได้ประมาณ 367,000 คัน

และสำหรับปีนี้ พวกเขาตั้งเป้าว่าจะต้องส่งมอบรถให้ได้ 500,000 คัน ซึ่งนั่นคือตัวเลขที่นักลงทุนหลายคนมองว่า “เป็นไปได้)

 

ถ้าส่งมอบรถได้เยอะ ก็จะมีเงินเข้ามามากขึ้น นั่นหมายถึงรายได้และกำไรที่มากขึ้นด้วย

และถ้าบริษัททำกำไรได้จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักลงทุน

แต่.. ยังคงเรื่องหนึ่งที่ถูกตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่า ตอนนี้มูลค่าของ Tesla นั้นสูงเกินกว่าความเป็นจริงหรือไม่!?

ตอนนี้ Tesla มีมูลค่ากิจการประมาณ 4.2 ล้านล้านบาท แซงหน้า Volkswagen ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี ขึ้นเป็นบริษัทยานยนต์อันดับสองของโลก

(เป็นรองเพียงแค่ Toyota ค่ายยักษ์ของญี่ปุ่นเท่านั้น)

ในขณะที่ Volkswagen มีมูลค่ากิจการประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท เท่านั้น

 

แต่หากเราจับทั้งสองกิจการมาเทียบกัน จะพบว่า..

ในปีล่าสุด Tesla มีรายได้ประมาณ 760,000 ล้านบาท ขาดทุน 27,000 ล้านบาท และส่งมอบรถยนต์ไปประมาณ 367,000 คัน

ขณะที่ Volkswagen มีรายได้ประมาณ 8 ล้านล้านบาท ทำกำไร 400,000 ล้านบาท และส่งมอบรถประมาณ 10 ล้านคันต่อปี

รายได้มากกว่า Tesla ราว 10 เท่า และส่งมอบรถไปมากกว่ากันประมาณ 26 เท่า!!

แต่มูลค่าของบริษัททั้งสองนั้น แตกต่างกันถึง 1.5 ล้านล้านบาท โดยที่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ กลับมีมูลค่ากิจการมากกว่าธุรกิจรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี

 

อย่างไรก็ตาม ในโลกของการลงทุน ความแน่นอนก็อาจจะไม่แน่นอน และสิ่งที่ตาเห็นก็อาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอ

หลายคนอาจจะมองด้วยเหตุผลด้านบนว่า มูลค่าของ Tesla กำลังเฟ้อเกินควรไปมาก และบริษัทที่ยังไม่มีกำไร ไม่ควรจะมีมูลค่ากิจการสูงขนาดนี้

หลายคนอาจจะมองว่า ราคาหุ้นของ Tesla ตอนนี้กำลังอันตราย เหมือนมีการจงใจปั่นราคาขึ้นมา

ขณะที่หลายคนอาจจะมองไปอีกทาง อาจจะมองว่านี่คือการเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งยานยนต์เท่านั้น และ Tesla กำลังเป็นผู้นำในตลาดใหม่นี้

หลายคนอาจจะมองว่า Tesla คือบริษัทแห่งอนาคตด้านพลังงาน เพราะนอกจากรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีทั้งโซลาร์ฟาร์ม ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งนั่นคือธุรกิจแห่งอนาคตทั้งสิ้น

 

ทั้งฝ่ายที่ซื้อและขายหุ้น Tesla ย่อมก็มีเหตุผลมารองรับที่ต่างกันออกไป

และจะมีเพียงแต่เวลาและผลลัพท์ที่ออกมาเท่านั้น ถึงจะพิสูจน์ได้ว่าความคิดไหนถูก หรือความคิดไหนที่ผิด

คุณเองล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์ของหุ้น Tesla ในขณะนี้ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันต่อในช่องคอมเมนต์ได้เลยครับ…

 

ล่าสุดราคาหุ้นของ Tesla อยู่ที่หุ้นละ 780 ดอลลาร์สหรัฐฯมันน่าสนใจมาก หากเทียบกับก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

Home

https://fortune.com/2020/01/07/elon-musk-tesla-gigafactory-shanghai-china-ceremony/

https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-10-23/elon-musk-opened-tesla-s-shanghai-gigafactory-in-just-168-days

https://annualreport2018.volkswagenag.com/

https://en.wikipedia.org/wiki/Volkswagen_Group

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...