Facebook
Twitter
LINE

การเติบโตของอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น คนซื้อของออนไลน์ก็มากยิ่งขึ้น

ทำให้ธุรกิจขนส่งพัสดุนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไป

ยิ่งเจ้าไหนให้บริการส่งพัสดุด่วนได้รวดเร็ว ปลอดภัย และคุณภาพดี ก็ยิ่งมีลูกค้าติดหนึบ

 

 

เริ่มจากน้องใหม่มาแรงอย่าง “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส”

ซึ่งได้รับความนิยมจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น

ข้อดีของเคอรี่ก็คือ ราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ส่งสินค้าชำรุดเสียหายน้อย

แถมยังส่งได้รวดเร็ว รับประกันว่า 1 วันถึงมือผู้รับ ก็ถึงจริงๆ

คนขายก็อยากให้ลูกค้าได้รับของแบบไม่มีตำหนิ

ส่วนลูกค้าก็อยากได้ของที่สั่งไปในสภาพสมบูรณ์ แถมไม่ต้องรอนาน

เมื่อเคอรี่สามารถตอบสนองได้ทั้ง 2 ความต้องการ หลายๆ คนเลยหันมาใช้บริการ

นอกจากนี้ทีเด็ดอีกอย่างก็คือ การโทรหาลูกค้าก่อนรับสินค้า

ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนได้รับการใส่ใจจากพนักงานมากยิ่งขึ้น

 

รายได้ของ บริษัท “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” (ประเทศไทย) จำกัด

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากถึงปีละมากกว่า 100%

ปี 2558 มีรายได้ประมาณ 1,515 ล้านบาท มีกำไร 134 ล้านบาท

ปี 2559 มีรายได้ประมาณ 3,206 ล้านบาท มีกำไร 307 ล้านบาท

ปี 2560 มีรายได้ประมาณ 6,577 ล้านบาท มีกำไร 732 ล้านบาท

รายได้โตขึ้นปีละ 111% และ 105%

ขณะที่กำไรก็โตตามไปที่ปีละ 128% และ 138% ตามลำดับ

ถือเป็นคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัว ของเจ้าเก่าแก่ดั้งเดิมอย่าง “ไปรษณีย์ไทย”

 

วกกลับมาที่ “ไปรษณีย์ไทย” กันบ้าง

ซึ่งเจ้าเก่ายังคงรักษาแชมป์เอาไว้ได้ตลอด

ข้อดีของไปรษณีย์ไทยก็คือ เครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย

ทั้งสาขาของไปรษณีย์ไทยกว่า 1,400 แห่ง

และสาขาของเอกชนที่ร่วมให้บริการ 3,500 แห่ง

รวมๆ กันแล้วมีจุดให้บริการของไปรษณีย์ไทยทั่วประทศ 5,000 แห่ง

 

นอกจากจุดบริการแล้ว คนส่งของก็ยังเข้าถึงทุกพื้นที่มากกว่า

เพราะไปรษณีย์ไทยให้บริการมาอย่างยาวนาน แถมพนักงานส่งก็คือคนที่คุ้นเคยกับชุมชน

บางครั้งต่อให้เขียนที่อยู่ผิด ไปรษณีย์ไทยก็สามารถไปส่งถูก

หรือบางครั้งไปแล้วบ้านไม่มีคนอยู่ พนักงานบางคนก็สามารถเอาไปให้ลูกค้าที่ตลาดได้

(นี่คือจุดเด่นแบบไทยๆ ของไปรษณีย์ไทย ที่ต่างชาติยังตะลึง ฮ่าาาา)

 

รายได้ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ปี 2558 มีรายได้ประมาณ 22,390 ล้านบาท มีกำไร 2,569 ล้านบาท

ปี 2559 มีรายได้ประมาณ 25,199 ล้านบาท มีกำไร 3,571 ล้านบาท

ปี 2560 มีรายได้ประมาณ 28,293 ล้านบาท มีกำไร 4,212 ล้านบาท

รายได้โตขึ้นปีละประมาณ 12%

แม้รายได้โตไม่หวือหวา แต่สามารถทำกำไรได้โตถึงปีละ 39% และ 17%

 

หากมองเจาะลงไปอีก ไปรษณีย์ไทย มีรายได้จากการส่งพัสดุประมาณ 50% ของรายได้ทั้งหมด

เท่ากับว่าในปีล่าสุด มีรายได้จากการส่งพัสดุราว 14,000 ล้านบาท

เทียบกันกับคู่แข่งมาแรงอย่างเคอรี่อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท ต่างกันเกินเท่าตัว

 

แม้จะยังครองแชมป์ แต่พี่ใหญ่อย่างไปรษณีย์ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน

เพราะการเติบโตแบบ 2 เท่าทุกปีของเคอรี่ ก็ยังแรงดีไม่มีตก

เพียงแค่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ ก็โตกว่าไตรมาสแรกของปีก่อน 121%

และผู้บริหารได้ตั้งเป้าว่าปีนี้ จะทำรายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาทไปสำเร็จ

 

เราคงต้องติดตามว่าแชมป์อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” จะสามารถรักษาแชมป์ไปได้นานแค่ไหน

ส่วน “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” ผู้ท้าชิงจะขึ้นมาท้าทายและแซงได้หรือไม่

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โลกซื้อขายออนไลน์และการขนส่ง ก็ยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

การแข่งขันนั้นจะมีข้อดีคือ ผู้ให้บริการต่างก็พัฒนาบริการที่ดีที่สุด เพื่อดึงดูดคนมาใช้

แล้วประโยชน์ก็จะตกมาอยู่กับ “ลูกค้า” แบบเราๆ ที่จะได้มีทางเลือกและบริการคุณภาพมากขึ้นนั่นเอง

 

คุณเองล่ะครับ.. ทุกวันนี้เป็นลูกค้าประจำของเจ้าไหน “ไปรษณีย์ไทย” หรือ “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส”??

 

 

ที่มา:

http://datawarehouse.dbd.go.th/bdw/est/details4.html?jpNo=0105546095724

http://datawarehouse.dbd.go.th/bdw/est/details4.html?jpNo=0105557008976

https://marketeeronline.co/archives/18376

www.smartsme.co.th/content/85767

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...