Facebook
Twitter
LINE

ชื่อของ Fabian Thylmann อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่หากเอ่ยชื่อของ พรฮับ, เรดทูบ หรือกระทั่ง ยูพร เชื่อว่าชาวเน็ตหลายคนจะต้องร้องอ๋อไปตามๆ กัน

เขาคือเด็กหนุ่มชาวเยอรมันที่เกิดในปี 1978 และมีความหลงใหลในคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในวัย 17 ปี เมื่อเขาสามารถสร้างซอฟแวร์ที่ชื่อว่า NATS ขึ้นมาได้สำเร็จ

 

 

NATS (Next-generation Affiliate Tracking Software) คือโปรแกรมที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดตามการคลิกของผู้ใช้งาน ว่าคลิกจากที่ใด ไปยังผู้ลงโฆษณา และซื้อผลิตภัณฑ์ จากนั้นก็ได้รับส่วนแบ่งตามยอดคลิก หรือค่าคอมมิชชันจากสินค้าที่ขายได้

สิ่งเหล่านี้ดูเป็นเรื่องธรรมดาในยุคปัจจุบัน ที่มีโฆษณาออนไลน์อยู่เต็มไปหมด แต่ต้องเข้าใจว่าตอนที่เขาสร้างมันขึ้นมาคือช่วงยุค 1990

หลังจากนั้นเขาก็มีไอเดียใสปิ๊งอยู่ในหัว เมื่อเว็บโป๊ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเว็บปิด และผู้ใช้ต้องสมัครสมาชิก จ่ายค่าบริการรายเดือนเพื่อเข้าชมเท่านั้น

ทำไมเราไม่เปิดให้ใช้ฟรี แล้วเก็บค่าโฆษณาแทน!?

 

 

เขาจึงตั้งบริษัท Manwin ขึ้นในปี 2004 จากนั้นจึงหาแหล่งเงินทุน เสนอแนวคิดของเขาให้กับธนาคารหลายแห่ง จนกระทั่งในที่สุด เขาก็มีเงินทุนมาจำนวนหนึ่ง

เขาเข้าซื้อกิจการเว็บโป๊ชื่อต่างๆ ซึ่ง 3 เจ้าดังที่เรากล่าวตอนต้นบทความ ก็ถูกไล่ซื้อมาอยู่ในบริษัทของเขา และเปลี่ยนโมเดลจากเก็บค่าบริการรายเดือน เป็นการเปิดใช้ฟรี

(แม้จะมีบางส่วนที่เป็นแบบ “พรีเมียม” ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายรายเดือนเพื่อเข้าใจบริการเท่านั้น แต่วิดีโอส่วนใหญ่ของเว็บก็จะชมได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกแต่อย่างใด)

 

 

ผลจากนโยบายดังกล่าว พร้อมกับการเติบโตของโลกอินเตอร์เน็ตในช่วงยุค 2000 เป็นต้นมา นั่นทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด

ผู้ชายทุกคนเคยดูเว็บโป๊ ขณะที่หลายคนก็เข้าอยู่เป็นประจำ ลองคิดดูว่าวันหนึ่งจะมีคนเข้าเว็บโป๊กี่ล้านรายทั่วโลก!?

แต่กระนั้นในปี 2013 หลังจากเปิดบริษัทมานับสิบปี Fabian ตัดสินใจขายหุ้นที่เขาถือครองของ Manwin ทั้งหมด โดยที่ไม่เปิดเผยเหตุผล เป็นมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

 

 

– หลังจากนั้น Manwin เปลี่ยนชื่อเป็น MindGeek ยังคงรูปแบบธุรกิจเดิมคือเปิดให้บริการสื่อลามกออนไลน์ และมีรายได้หลักคือค่าโฆษณา

 

– นอกจากค่าโฆษณาแล้ว รายได้ทางอื่นๆ ยังมาจากการผลิตหนังโป๊ร่วมกับค่ายต่างๆ รวมถึงการเก็บค่าสมาชิกรายเดือน เพื่อเข้าชมในแบบพรีเมียม

 

– MindGeek กลายเป็นบริษัทข้ามชาติ จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา

 

– นอกจากนี้ยังมีสาขาอีกกว่า 6 ประเทศทั้งไอร์แลนด์ อังกฤษ เยอรมนี โรมาเนีย ไซปรัส และสหรัฐอเมริกา มีพนักงานกว่า 1,400 คน

 

– จากจำนวนการเข้าชมเว็บโป๊บนโลกออนไลน์ทั้งหมด ทาง MindGeek ครอบครองส่วนแบ่งสูงถึง 80% และมีเว็บไซต์ในเครือถึง 24 เว็บ

 

– รายงานในปี 2015 ระบุว่าเครือ MindGeek ทำรายได้สูงถึง 14,700 ล้านบาท

 

ตัวอย่างรายชื่อเว็บไซต์ในเครือ MindGeek

 

แม้ธุรกิจการประกอบกิจการด้านสื่อลามกอนาจาร จะผิดกฎหมายในประเทศไทยเรา และบทความนี้ก็ไม่ได้เขียนเพื่อส่งเสริมให้มีการทำเว็บโป๊ แต่นี่ก็คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง

จากเด็กหนุ่มผู้ชื่นชอบในเรื่องไอที ประยุกต์ความชอบดังกล่าวเข้ากับโอกาสธุรกิจในวงการ “เว็บโป๊” เล็งเห็นโมเดลทำเงินที่แตกต่างออกไปจากรูปแบบเดิมๆ และลงมือทำจนมันประสบความสำเร็จ

จากคนธรรมดา กลายเป็นเศรษฐีพันล้านไปในที่สุด…

 

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...