Facebook
Twitter
LINE

ปัจจุบันมีการประเมินว่า Elon Musk มีทรัพย์สินประมาณ 1.86 ล้านล้านบาท

แต่ถ้าคุณโชคดีได้มีโอกาสขอยืมเงินเขา เขาอาจจะตอบปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “ไม่มีเงิน”

มาถึงจุดนี้.. คุณอาจจะคิดว่า Elon เป็นคนขี้เหนียวเหรอ!?

แต่ความจริงก็คือ เขาอาจจะไม่มีเงินให้คุณยืมจริงๆ ก็เป็นได้.. แล้วทำไมเศรษฐีระดับโลก ถึงไม่มีเงินให้คุณยืมล่ะ??

 

ในปี 2020 ราคาหุ้นของบริษัท Tesla พุ่งขึ้นจาก 430 ดอลลาร์ มาเป็น 1,550 ดอลลาร์ คิดเป็นการพุ่งสูงกว่า 250%

และนั่นส่งผลให้ Elon Musk มีทรัพย์สินก้าวกระโดดจากอันดับ 31 มาเป็นอันดับ 7 ของโลกได้สำเร็จ

จากการประเมินของฟอร์บส์ พบว่าแม้ Elon จะมีทรัพย์สินกว่า 1.86 ล้านล้านบาท

แต่กลับพบว่า ทรัพย์สินมากกว่า 99% ของเขา คือหุ้นของบริษัท 2 แห่งที่เปรียบเหมือนชีวิตของเขาคือ Tesla และ SpaceX

อันที่จริง ดูเหมือนเขาจะทุ่มเงินให้กับทั้ง 2 ธุรกิจ จนไม่เหลือเงินใช้เองเสียมากกว่า..

 

ย้อนกลับไปในปี 2002

Elon Musk ขายบริษัท Paypal และได้เงินเข้ากระเป๋าตัวเองประมาณ 5,200 ล้านบาท

เขารีบนำมันไปทำตามความฝันในการไปดาวอังคารของตัวเองทันที ด้วยการก่อตั้งบริษัท SpaceX เพื่อพัฒนาจรวดและเทคโนโลยีอวกาศ

แต่ก็ยังไม่ทันที่จรวดจะสำเร็จ ก็มีเรื่องให้เสียเงินอีก

ในปี 2004 เขาดันไปถูกใจกับแผนงานของบริษัท Tesla ที่จะทำรถยนต์ไฟฟ้า ก็เลยแบ่งเงินอีกส่วนไปลงทุน

ปรากฏว่า ปัญหามันมากกว่าที่เขาคิดไว้

นอกจากจรวดที่ตั้งเป้าไว้จะเสร็จในปีนั้น ก็ไม่เสร็จตามกำหนด แล้วพอเสร็จแล้วออกไปทดสอบ ก็ล้มเหลวถึง 3 ครั้ง

บริษัทรถยนต์ ก็ต้องการเงินทุนในการพัฒนา เพราะยังขายรถไม่ได้

 

ต่อมาในปี 2008 มีข่าวดีเมื่อจรวดทดสอบครั้งที่ 4 สำเร็จได้ด้วยดี

ส่วนรถยนต์ Tesla Roadster สปอร์ตไฟฟ้าคันแรกก็พร้อมเสร็จพร้อมจะส่งมอบ

แต่.. แต่.. แต่!! ดวงคนมันจะซวย

ปรากฏว่าในปี 2008 ดันเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่เรารู้จักในชื่อ “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” ขึ้นพอดีอีก

วิกฤติทำให้เงินขาดมือ แล้วตอนนั้นเขาก็มีเงินพอที่จะช่วยแค่ 1 บริษัทเท่านั้น

ถ้าเลือกบริษัทจรวด ต้องทิ้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า แต่ถ้าเลือกทำรถต่อที่มีโอกาสขายได้ ความฝันไปดาวอังคารก็ต้องพังลง

Elon พยายามหาแหล่งเงินมาช่วย แต่ในวิกฤติไม่มีใครอยากจะให้กู้หรอก

เขาคิดไม่ตก ทั้งดิ้นรนและลากยาวมาจนถึงช่วงปลายเดือนธันวาคม ถ้าผ่านช่วงนั้นไปแล้ว บริษัทคงต้องยื่นล้มละลาย

 

ปรากฏว่า.. ดวงคนมันจะไปต่อได้ มันก็ไปต่อได้!!

เมื่อ NASA ติดต่อเข้ามายัง SpaceX พร้อมกับยืนยันสัญญาจ้างงานขนส่งสินค้าไปอวกาศ เป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท

ต่อมาอีกวันเดียว Daimler (บริษัทแม่ Mercedes-Benz) ยื่นเงินเข้ามา แลกกับหุ้นบริษัท Tesla เสริมสภาพคล่องให้ผลิตรถต่อไปได้

ทั้งสองธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เงินของซีอีโอ กำลังจะหมดแล้ว!!

 

ตัดภาพกลับมาที่ยุคปัจจุบัน

ตอนที่ Tesla มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอีกครั้งในปี 2018 ถึงขั้นที่ซีอีโอคนนี้ต้องยอมไม่รับเงินเดือนประมาณ 1.6 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทเหลือเงินมากที่สุด

เหมือนจะดูดีใช่ไหม!?

แต่เขาก็เท่ได้ไม่นาน ดันไปก่อเรื่องโพสต์ทวิตเตอร์ว่าจะเอาบริษัทออกจากตลาดหุ้น ต่อมาก็โพสต์ว่าไม่เอาออกแล้ว

จนโดนหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับไปประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งเขาต้องให้บริษัทช่วยจ่าย และยอมลงจากตำแหน่งประธาน

(โดยยังคงเป็นซีอีโออยู่)

 

ส่วน Tesla ในปัจจุบัน มีหนี้สินประมาณ 860,000 ล้านบาท มีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ 207,000 ล้านบาท ซึ่งต่างกัน 4.1 เท่า

แล้วก็มีเงินสดอยู่ในบริษัทประมาณ 190,000 ล้านบาท

ซึ่งเงินสดดังกล่าว ก็จะใช้หมุนเวียนเพื่อการผลิตรถ และขยายโรงงานของ Tesla ซึ่งกำลังเร่งสร้างโรงงานใหม่อย่างต่อเนื่อง

 

ยังมีรายงานอีกด้วยว่า ตัวของ Elon Musk เองก็มีหนี้สินประมาณ 15,000 ล้านบาท

ซึ่งเป็นหนี้สินกู้ยืมจากธนาคาร Morgan Stanley และ Goldman Sachs ซึ่งเมื่อเขาไม่มีเงินสด ก็ต้องแบ่งจ่ายด้วยหุ้นของ Tesla ที่เขามีนั่นเอง

 

คำว่าไม่มีเงินสด สำหรับ Elon Musk นั้นไม่ได้หมายความว่า เขาไม่มีเงินจะไปซื้ออาหารหรือของใช้ประจำวัน เพราะคนระดับนี้ย่อมมีพอใช้จ่าย

แต่เงินสดทั้งหมดของเขา ต้องเทหมดหน้าตักไปให้บริษัทรถยนต์ Tesla  ที่พอมีรายได้มา ก็ต้องนำไปจ่ายพนักงานกว่า 50,000 คนทั่วโลก ใน 4 โรงงานใหญ่รอบโลก

แถมยังต้องลงทุนขยายกิจการ ล่าสุดกำลังปิดดีลโรงงานแห่งที่ 5

พร้อมกับเป้าขยายโรงงานอีกอย่างน้อย 5 แห่งในอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ทำให้ Tesla แม้จะเป็นธุรกิจแห่งอนาคต แต่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และยังไม่สามารถทำกำไรได้แม้แต่ปีเดียว

 

ปิดท้ายกันด้วยคำพูดที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปลายปี 2019 เมื่อถูกถามเรื่องเงินของตัวเอง..

“หลายคนอาจคิดว่าผมมีเงินให้ใช้มากมาย

แต่อยากจะบอกว่า.. ผมไม่มีเงินเลยจริงๆ!!”

 

ปัจจุบันมีการประเมินว่า Elon Musk มีทรัพย์สินประมาณ 1.86 ล้านล้านบาทแต่ถ้าคุณโชคดีได้มีโอกาสขอยืมเงินเขา…

โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2020

 

 

ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!

 

ที่มา:

www.forbes.com/profile/elon-musk/#5485e377999b

www.forbes.com/sites/noahkirsch/2019/12/04/why-elon-musk-is-cash-poor-for-a-billionaire/#6923150733f6

www.investing.com/equities/tesla-motors-balance-sheet

www.sec.gov/Archives/edgar/data/1318605/000119312517086226/d535687d424b5.htm

https://en.wikipedia.org/wiki/Tesla_Roadster_(2008)

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...