รู้จักน้ำมะเขือเทศดอยคำรึเปล่าครับ!?
ขณะที่คุณกำลังนั่งอ่านบทความนี้ผ่านไป 1 วินาที น้ำมะเขือเทศดอยคำขายไปได้แล้ว 1.6 กล่อง
เพจแนวคิดพันล้านจะพาไปศึกษาแนวทางการใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวอย่าง “น้ำมะเขือเทศ” เป็นพระเอกหลัก ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของดอยคำในปีที่ผ่านมา…
มีมูลค่ารวมถึง 2,000 ล้านบาท!!
เปิดประวัติ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด
– ปี พ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) มีพระราชดำริให้จัดตั้ง “โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป” ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อรับซื้อพืชผลทางการเกษตรมาแปรรูป
– ชื่อของ “ดอยคำ” ถูกนำมาเป็นเครื่องหมายการค้าตั้งแต่แรก
– หลังจากดำเนินกิจการมาได้ 25 ปี โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ถูกส่งต่อจากมูลนิธิโครงการหลวง เข้าสู่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
– ดังนั้นในปี พ.ศ.2537 “บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด” จึงถือกำเนิดขึ้น
จุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท หลังเทรนด์สุขภาพมาแรง
– ช่วงประมาณปี พ.ศ.2557 เทรนด์ความรักสุขภาพกำลังมาแรง พร้อมกับกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก และการเติบโตของโลกออนไลน์
– ทุกอย่างเหมือนจะเหมาะเจาะลงตัว เมื่อการรีวิว “น้ำมะเขือเทศดอยคำ” นำไปสู่กระแสไวรัลทั่วอินเตอร์เน็ตไทย มีทั้งการเสาะหามาทาน และรีวิวตาม
– กระแส “มะเขือเทศฟีเวอร์” จึงเกิดตามมา
– แต่กระแสนี้มีทั้งด้านดีและด้านลบ หลายคนที่ได้ทานก็บอกต่อว่าดีต่อสุขภาพ และหาซื้อมาทาน ขณะที่หลายคนบอกว่าไม่ชอบในรสชาติ จนต้องขอผ่าน
– ตลาดรับรู้ได้ทันทีว่า มีความต้องการบริโภคน้ำมะเขือเทศ แต่ติดปัญหาในเรื่องรสชาติ
– หลายแบรนด์เริ่มออกน้ำมะเขือเทศมาวางขาย โดยการแก้เกมโฆษณาว่ารสอร่อย ทานง่าย หรือไปผสมกับน้ำผักและผลไม้อื่นๆ เพื่อการทานที่สะดวกขึ้น
– ดอยคำตอนนั้นมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำเขือเทศ 50% ขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ มีส่วนแบ่งรวมกันอีก 50%
การแก้เกมของ “ดอยคำ”
– หลังจากนั้นไม่นาน ดอยคำส่งน้ำมะเขือเทศในอีก 2 รูปแบบลงมาสู่ในตลาดทันที
– ทั้งน้ำมะเขือเทศแบบโซเดียมต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สายรักสุขภาพหลายๆ คนกังวลไม่แพ้น้ำตาล ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี
– อีกโปรดักส์คือน้ำมะเขือเทศผสมน้ำผลไม้รวม 98% เอาใจลูกค้าที่รับรสชาติน้ำมะเขือเทศ 99% ไม่ไหวอีกกลุ่ม
– ยังไม่จบ.. ดอยคำรู้ว่าผลิตภัณฑ์เดิมนั้นมีภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างตกยุค จึงยกเครื่องใหม่ทั้งหมดทั้งโลโก้ แพ็คเกจผลิตภัณฑ์
– เมื่อสินค้ากำลังติดตลาด แล้วผลิตภัณฑ์ทำแพ็คเพจใหม่ให้ทันสมัย ก็ได้เวลาทุ่มงบโฆษณาต่อทันที
– “ดอยคำ” วางตัวเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และทำจากธรรมชาติแบบ 100% ขายลูกค้าไปพร้อมกับเทรนด์รักสุขภาพซึ่งมาแรงไม่ตก
เปรียบเทียบกล่องดอยคำ แบบเก่า vs แบบใหม่
ตัวเลขการเติบโตของดอยคำ
รายได้ของดอยคำในปี 2556-2560 เติบโตขึ้นมาถึง 2.5 เท่า!!
ปี 2556 บริษัทดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร มีรายได้ 709 ล้านบาท กำไร 21 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้กระโดดเป็น 1,007 ล้านบาท เติบโตถึง 42%
และล่าสุดปี 2560 ทำรายได้แตะ 2,032 ล้านบาทเป็นครั้งแรก พร้อมกำไร 235 ล้านบาท
ขายน้ำมะเขือเทศได้มากแค่ไหน
จากการศึกษาข้อมูลพบว่า รายได้ของดอยคำ จะแบ่งออกเป็นจากเครื่องดื่ม 60% และจากของกินอื่นๆ เช่น ผลไม้อบแห้ง ผลไม้แช่แข็ง แป้งถั่วเหลือง อีก 40%
เท่ากับรายได้ 2,000 ล้านบาท มาจากเครื่องดื่ม 1,200 ล้านบาท
แยกลงไปในรายได้ส่วนเครื่องดื่ม “น้ำมะเขือเทศ” พระเอกหลักนั้นทำรายได้ถึง 72% ของเครื่องดื่มทั้งหมด
นั่นเท่ากับว่าจากรายได้เครื่องดื่ม 1,200 ล้านบาท บริษัทขายน้ำมะเขือเทศได้ถึงปีละ 864 ล้านบาท
คิดคร่าวๆ จากราคาหน้ากล่อง 17 บาท
เท่ากับขายได้วันละอย่างน้อย 139,000 กล่อง
หรือวินาทีละ 1.6 กล่องนั่นเอง!!
(คิดแบบง่ายที่สุดแล้วกันนะครับ เดี๋ยวจะปวดหัวกว่านี้ ฮ่าๆ)
โปรดักส์ “น้ำมะเขือเทศ” นอกจากจะเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด สร้างรายได้หลักให้บริษัทแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ “ดอยคำ” มากขึ้น
ซึ่งนั่นก็จะส่งผลดีให้ลูกค้าอยากลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์เดียวกัน
ปัจจุบันดอยคำมีกว่า 115 ผลิตภัณฑ์ แต่ถ้าไปถามคนทั่วไปว่านึกถึงดอยคำจะนึกถึงอะไร ส่วนใหญ่คงจะตอบน้ำมะเขือเทศเป็นแน่
ผมเองก็เชื่อว่าหลายคนลองสินค้าใหม่ๆ ของดอยคำ เพราะรู้จักแบรนด์นี้จากน้ำมะเขือเทศใช่ไหมล่ะครับ!?
เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามพลังของ “แบรนด์” และ “สินค้าพระเอก” นะครับ สองสิ่งนี้อาจจะทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด ในแบบที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้….!!
ที่มา:
www.doikham.co.th/Doi-Kham-History
marketeeronline.co/archives/2438
brandinside.asia/doi-kham-strategy-to-no-2/
medium.com/@tanarat/
http://datawarehouse.dbd.go.th/bdw/est/details4.html?jpNo=0105537091975&jpTypeCode=5
Advertisement
