หลายคนอาจจะเริ่มเห็นร้านขายวัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้าน เป็นร้านสีส้มๆ เปิดใหม่ขึ้นมาในช่วงหลัง
ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของธุรกิจนี้ ที่มีเจ้าใหญ่ไม่ว่าจะเป็นไทวัสดุ โกลบอลเฮ้าส์ หรือกระทั่งโฮมโปร
แต่ทาง “ดูโฮม” ธุรกิจร้านวัสดุก่อสร้างจากเมืองอุบลฯ ก็หวังจะขยายกิจการไปทัดเทียมกับรายได้ใหญ่ให้ได้
ธุรกิจนี้มีที่มาอย่างไร!? และจะมีโอกาสแข่งกับรายใหญ่ได้จริงๆ หรือไม่!?
เราจะพาคุณไปรู้จักธุรกิจนี้กันให้มากยิ่งขึ้นครับ..
เปิดตำนานร้านวัสดุก่อสร้าง 3 ทศวรรษ
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2526 คุณอดิศักดิ์ และคุณนาตยา สองสามีภรรยาร่วมกันเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ขึ้น ในอำเภอเมืองอุบลฯ
ผ่านไปได้ราว 10 ปี กิจการขยายใหญ่โตขึ้น พวกเขาจึงย้ายร้านออกมาที่อำเภอวารินชำราบ ซึ่งห่างจากสาขาแรกไม่มากนัก
และที่สาขานี้เอง ร้าน “อุบลวัสดุ” เริ่มเติบโต สร้างชื่อเสียงให้คนอุบลและพื้นที่ใกล้เคียงได้รู้จัก
ร้านนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในยุคนั้นมาใช้ อย่างเช่น การจัดการคลังสินค้าสมัยใหม่ ลงบันทึกสินค้าเข้าระบบคอมพิวเตอร์ หรือการใช้งานบาร์โค้ด
ทำให้อุบลวัสดุ ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งรายย่อยและรายใหญ่
จนกลายเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำของจังหวัดได้ในที่สุด..
การเติบโตสู่ระดับประเทศ
จนกระทั่งในปี พ.ศ.2550 หลังจากเปิดมา 20 กว่าปี จนมีประสบการณ์มากพอแล้ว
ร้านจึงเริ่มขยายสาขาที่ 2 โดยยังเลือกทำเลภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับเริ่มเปลี่ยนใช้แบรนด์เป็น “ดูโฮม ในเครือบริษัท อุบลวัสดุ”
เมื่อใหม่ดำเนินไปได้ด้วยดีเกือบ 3 ปี คราวนี้จึงรุกต่อมายังเมืองหลวงบ้าง
ดูโฮม เปิดสาขาที่ 3 ขึ้นในย่านรังสิต
แล้วก็ทยอยเปิดสาขาอื่นๆ ต่อ ทั้งในจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ รวมถึงเปิดสาขาในโซนอื่นๆ ของกรุงเทพฯ
จนกระทั่งปัจจุบัน ดูโฮมมีสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา แบ่งออกเป็นร้านสาขาใหญ่ 10 สาขา และร้านขนาดเล็กอีก 6 สาขา
ตัวเลข 16 สาขานั้นยังไม่บรรลุเป้าของทางบริษัท ที่มองว่ายังคงสามารถขยายสาขาต่อไปได้อีกในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย
แต่การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้เงินทุนที่มากขึ้น
แล้วแหล่งเงินทุนที่น่าสนใจ ก็คือการพาบริษัทเข้าตลาดหุ้น เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนมาขยายกิจการ
จนในที่สุด บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ก็เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้สำเร็จ เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา
เทียบคู่แข่งของดูโฮม ในธุรกิจร้านวัสดุก่อสร้าง
ดูโฮม ใหญ่แค่ไหนในกลุ่มค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน เราจะลองเทียบกับคู่แข่งเจ้าใหญ่ๆ ที่พอจะคุ้นหูกันสัก 3 เจ้านะครับ
โฮมโปร จำนวน 99 สาขา รายได้ปีล่าสุด 67,000 ล้านบาท กำไร 6,100 ล้านบาท
โกลบอลเฮาส์ จำนวน 67 สาขา รายได้ปีล่าสุด 29,000 ล้านบาท กำไร 2,000 ล้านบาท
ไทวัสดุ จำนวน 53 สาขา รายได้ปีล่าสุด 29,000 ล้านบาท กำไร 1,200 ล้านบาท
ดูโฮม จำนวน 16 สาขา รายได้ปีล่าสุด 17,000 ล้านบาท กำไร 700 ล้านบาท
เท่ากับว่าตอนนี้ ดูโฮมคือรายเล็กสุด ทั้งในเรื่องของจำนวนสาขาและรายได้
ข้อเสียเปรียบก็คือรายเล็กกว่า แต่จุดได้เปรียบก็คือ.. ยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีก ซึ่งช่องว่างที่จะเติบโตได้นี้ นักลงทุนหลายคนจึงเชื่อมั่นว่าจะโตไปได้อีกไกล
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ คู่แข่งแต่ละเจ้าก็มีธุรกิจยักษ์ใหญ่หนุนหลังอยู่ ไม่ว่าจะเป็น..
โฮมโปร ที่ถือหุ้นโดยบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ และ ควอลิตี้ เฮาส์
โกลบอลเฮาส์ ที่มีเครือเอสซีจีเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ไทวัสดุ ก็อยู่ในเครือเซ็นทรัล
แน่นอนว่าเมื่อบริษัทแม่จำเป็นต้องใช้สินค้า ก็ย่อมซื้อจากบริษัทลูกของตัวเอง เป็นการเสริมรายได้ไปอีกทาง
ซึ่งนี่อาจจะเป็นข้อเสียเปรียบหนึ่งในการแข่งขันของดูโฮม ที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ารายเล็ก จะแข่งขันได้ดีแค่ไหนในธุรกิจนี้
สุดท้ายนี้ จากสาขาแรกในตัวเมืองอุบลฯ มาจนกระทั่งมี 16 สาขาในปัจจุบัน
จากร้านเล็กๆ ที่มีพนักงานไม่ถึง 10 คน จนปัจจุบันเป็นกิจการมูลค่า 36,000 ล้านบาท
ดูโฮมนั้น เติบโตมาไกลมาก ตลอดช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา
แต่ในอนาคต พวกเขาจะก้าวต่อไปได้อีกไกลเพียงใด เป็นเรื่องน่าสนใจที่เราจะต้องติดตามกันต่อไปครับ…
เปิดตำนาน "ดูโฮม" ร้านขายวัสดุจากเมืองอุบลฯ สู่ธุรกิจมูลค่า 20,000…
โพสต์โดย Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน เมื่อ วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2020
ติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit
– ติดตามเพจ Billion Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา:
https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/profitloss/5/0105555021215
www.set.or.th/
https://investor.dohome.co.th/th/corporate-information/company-history
www.thaiwatsadu.com/location.html
Advertisement
