Facebook
Twitter
LINE

Advertorial

 

ในช่วงที่ผ่านมา กระแสการลงทุนใน Digital Asset (สินทรัพย์ดิจิทัล) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

พอพูดถึงคำว่าสินทรัพย์ดิจิทัล เชื่อว่าในความคิดของหลายคน ย่อมนึกถึงสินทรัพย์ประเภท Cryptocurrency หรือเงินคริปโตเป็นอย่างแรกๆ

โดยเฉพาะ Bitcoin เงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด

แต่ในความเป็นจริง คำว่าสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เจ้า Bitcoin เท่านั้น

แต่ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่..

 

1. โทเคนดิจิทัล

โทเคนดิจิทัล เป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ประเภทหนึ่ง ที่ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์และสามารถใช้โทเคนนั้นทำประโยชน์ต่างๆ ตามที่ตกลงกับผู้ออกโทเคน

เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น สมมติว่าเราไปซื้อหุ้นบริษัทหนึ่ง เราก็จะได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของร่วมบริษัทนั้นๆ

เราจะมีสิทธิ์ได้ปันผลจากกำไรที่บริษัททำได้ เราจะมีสิทธิ์โหวตในที่ประชุม เป็นต้น

แต่การที่เราซื้อโทเคนดิจิทัล เราก็จะได้สิทธิ์ตามที่ระบุไว้ตอนเสนอขายเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่หุ้นของบริษัทที่ออกโทเคนก็ได้

เช่น อาจจะเป็นสิทธิ์ในผลกำไรเฉพาะโครงการใดโครงการหนึ่ง หรือสิทธิ์ในการซื้อสินค้าบริษัทนั้นราคาถูกลงเป็นพิเศษ

 

2. คริปโทเคอร์เรนซี

ความหมายของคริปโทเคอร์เรนซี ก็คือหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ

พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นเงินในสกุลหนึ่ง

แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีธนาคารกลางแห่งใด ที่ยอมรับให้เงินชนิดนี้สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

แต่เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ยอมรับว่ามันมีค่า ก็สามารถนำมันมาเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้

โดยคริปโทเคอร์เรนซี ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ก็คือ Bitcoin

 

 

มาทำความรู้จักตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และคริปโตโทเคน ให้มากยิ่งขึ้น

คุณอาจจะไม่รู้มาก่อนว่า ปัจจุบันตลาดคริปโทเคอร์เรนซีและคริปโตโทเคน มีมูลค่าสูงถึง 8 ล้านล้านบาท

ถามว่าใหญ่แค่ไหน ลองเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่มีมูลค่าราว 14 ล้านล้านบาท จะเห็นว่าใหญ่เกือบ 60% ของตลาดไทย

แน่นอนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Bitcoin ซึ่งมีมูลค่าทางตลาด 5.1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 64% ในตลาด

ตามมาด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลอื่นๆ ได้แก่..

Ethereum มูลค่าทางตลาด 770,000 ล้านบาท คิดเป็น 9%

Ripple มูลค่าทางตลาด 241,000 ล้านบาท คิดเป็น 3%

Bitcoin Cash มูลค่าทางตลาด 126,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.5%

Litecoinมูลค่าทางตลาด 80,000 ล้านบาท คิดเป็น 1%

ที่เหลือคือสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลเล็กๆ น้อยๆ อื่น ที่รวมกันมีมูลค่าประมาณ 20% ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด

 

ทำไม Bitcoin จึงได้รับความนิยมสูงที่สุดล่ะ!?

เหตุผลหลักก็คือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์แรกที่ทำงานบนบล็อกเชนเป็นหลัก

ด้วยความที่เครือข่ายมีขนาดใหญ่มาก การจะแฮ็กระบบของคอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่ประมวลผลเพื่อแฮ็ก Bitcoin จึงเป็นเรื่องยาก

เพื่อให้เห็นภาพง่ายๆ..

สมมติเรามีสมุดบัญชีเล่มเดียวที่จดเงินที่เรามีเอาไว้ ถ้าเกิดว่ามีคนมาเปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือขโมยสมุดของเราไป คนอื่นก็ไม่รู้เลยว่าเรามีเงินเท่าไร

แต่ถ้าเกิดทุกคนในหมู่บ้านของเราหนึ่งร้อยครอบครัว มีสมุดบัญชีชุดข้อมูลเดียวกันเดียวกัน

ถ้าเกิดมีใครมาแก้สมุดบัญชีของเรา เราก็ยังมีอีก 99 บ้าน มาช่วยยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกต้องคืออะไร

 

 

แล้วเราจะหาซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล ได้จากที่ไหนบ้าง!?

ถ้าเราจะซื้อหุ้น เราก็ต้องซื้อจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ส่วนถ้าเราจะซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล สถานที่ที่สามารถซื้อขายได้ในไทย จะถูกเรียกว่า “ศูนย์ซื้อขายหรือ Exchange” (บางท่านก็เรียกว่า ตลาดหลักทรัพย์ 2.0)

ซึ่งศูนย์ซื้อขายที่ดีนั้น ควรจะประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น..

 

1. ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของไทย

สำหรับประเทศไทย ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมาย เพื่อให้นักลงทุนในไทย มีความมั่นใจว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนของเราจะปลอดภัยและตรวจสอบได้

หนึ่งในหน่วยงานนั้นก็คือ กลต. ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองในตลาดหุ้นไทยแล้ว ยังรวมถึงตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นก่อนซื้อขาย ควรจะตรวจสอบว่าศูนย์ซื้อขายนั้น มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจจาก กลต. ด้วยหรือไม่!?

 

2. มีเครือข่ายผู้ใช้งานจำนวนมาก

หนึ่งในปัจจัยที่ใช้วัดความน่าเชื่อถือ นอกจากใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็คือการดูจำนวนผู้ใช้งานศูนย์ซื้อขายดังกล่าว

แม้ตัวเลขของผู้ใช้งาน จะไม่ได้ยืนยัน 100% ได้ว่าจะเป็นศูนย์ซื้อขายที่ดีที่สุด หรือปลอดภัยที่สุด แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนมาก ที่มั่นใจและเลือกใช้บริการนั่นเอง

 

3. ค่าธรรมเนียมที่ไม่แพงจนเกินไป

เนื่องจากหลายๆ คน อาจจะซื้อขายเงินดิจิทัลเพื่อเก็งกำไร นำมาสู่การซื้อขายหลายครั้งในแต่ละวัน ซึ่งถ้าแพลทฟอร์มไหนมีค่าธรรมเนียมที่สูง ก็ย่อมทำให้โอกาสทำกำไรของคนที่ซื้อขายบ่อยครั้งลดลง

 

4. มีการเก็บสินทรัพย์ของนักลงทุนที่ดี

แม้กำไรและขาดทุน จะเป็นเรื่องปกติของการซื้อขาย โดยเฉพาะตลาดเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงมาก ซึ่งตรงนั้นเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนย่อมรับได้

แล้วความเสี่ยงที่จะเกิดกับเงินในบัญชี ที่ไม่ได้ทำการซื้อขายล่ะ!?

แพลทฟอร์มที่ดี ก็ควรจะต้องมีประกันภัยในเหตุสุดวิสัย กับทรัพย์สินที่อยู่ในพอร์ทการลงทุนของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสามารถฝากเงินไว้เฉยๆ โดยเงินไม่หายไปไหนด้วย

 

Zipmex บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก กลต.

 

ปิดท้าย.. สำหรับใครที่กำลังมองหาศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีคุณสมบัติครบทั้ง 4 ข้อตามที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น

บริษัท Zipmex เป็นหนึ่งในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ทั้งได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจาก กลต.

ระบบการซื้อขายก็มีความเสถียร มีสภาพคล่อง จากผู้ใช้งานกว่า 40,000 ราย

ฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อขาย ในขณะที่อื่นอาจจะชาร์จ 0.25% ขึ้นไป

มีการเก็บทรัพย์สินของนักลงทุนที่มีประกันกับธนาคารอังกฤษ Lloyd’s of London

แถมการเปิดบัญชีซื้อขายก็ง่ายและใช้เวลาเพียงไม่นานได้ที่ https://zipmex.co.th/

 

ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลได้จาก Zipmex ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินทรัพดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก กลต. ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/ZipmexThailand/

Website: https://zipmex.co.th/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zipmex

หรือติดตาม Hashtag #Zipmex และ #ZipmexThailand ได้เลยครับ

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...