ประเด็นการกลั่นแกล้งในโรงเรียน กลับมาเป็นกระแสที่พูดถึงในเมืองไทยอีกครั้ง
แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าว ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศเราเท่านั้น
เพราะเป็นอีกหนึ่งปัญหาของระบบการศึกษา ที่ทั้งโลกให้ความสำคัญมานับสิบปี
มีการพยายามเก็บรวบรวมข้อมูล วิจัย และวางแผนถึงแนวทางแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
แล้วในแต่ละประเทศนั้นมีอัตราการกลั่นแกล้งในโรงเรียนสูงแค่ไหน??
ต้องย้อนไปดูผลการวิจัยจาก OECD ซึ่งเผยแพร่ออกมาในปี 2015
โดยเป็นการเก็บข้อมูลจากประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ
ผ่านการสำรวจเด็กนักเรียนอายุ 11 ขวบ 13 ปี และ 15 ปี ว่าเคยโดนกลั่นแกล้งในโรงเรียนมากกว่า 2 ครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
พบว่าประเทศอย่างออสเตรีย นำมาเป็นอันดับ 1
ด้วยค่าเฉลี่ยการถูกกลั่นแกล้ง 21%
หมายถึงว่าเด็กนักเรียน 100 คน จะโดนแกล้งถึง 21 คน
หรือถ้าห้องเรียนมีเด็ก 30 คน จะมีถึง 6 คนที่ถูกกลุ่มหัวโจกและคนอื่นๆ กลั่นแกล้งเป็นประจำ
นับเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขณะที่สวีเดน น้อยที่สุดในกลุ่มที่ทำการสำรวจ โดยมีอัตราอยู่ที่ 4%
โดยการสำรวจครั้งนี้ มีค่าเฉลี่ยประมาณ 11%
ซึ่งก็มีสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมนี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ของค่าเฉลี่ยพอดี
ย้อนกลับมายังประเทศไทย…
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อต้นปี 2018
ระบุว่าเด็กนักเรียนไทยโดนกลั่นแกล้งในโรงเรียนถึง 600,000 คน
เมื่อคิดเป็นอัตราส่วนแล้วเท่ากับประมาณ 40% รั้งอันดับสองของโลก
ทีนี้เมื่อย้อนไปให้ไกลกว่านั้น ข้อมูลจากในปี 2010
ระบุว่าเด็ก 43% ยอมรับว่าเคยถูกคนอื่นรังแก
ขณะที่เด็กนักเรียน 33% เคยบูลลีคนอื่นผ่านทางโลกออนไลน์อีกด้วย
การกลั่นแกล้งในโรงเรียน ปัญหาใหญ่ของคนทั่วโลก…
เด็กที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน นอกจากจะส่งผลถึงความรู้สึกในตอนนั้นแล้ว อาจจะกลายเป็นแผลฝังใจในระยะยาวได้
กลายเป็นความรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากไปโรงเรียน
แต่เมื่อพวกเขายังคงต้องไปเรียน สุดท้ายก็จะหนีไม่พ้น
กลายเป็นความเครียดที่สะสมขึ้นเรื่อยๆ
แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่ง หากไม่ได้รับการแก้ไข เด็กเหล่านั้นก็จะหาทางออกของปัญหาเอาเอง
ทางแรกคือการเก็บความเครียดไว้กับตัว เกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งนำไปสู่การฆ่าตัวตาย
หรืออีกทางคือการระเบิดปัญหา กลับไปแก้แค้นเอาคืนกับผู้ที่กลั่นแกล้ง
อย่างที่เราเห็นข่าวการทำร้ายหรือกราดยิงในโรงเรียนนั่นเอง
แนวทางแก้ปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน…
แม้จะมีความพยายามแก้ปัญหามาตลอด แต่ดูเหมือนว่าอาจจะใช้ไม่ได้ผลมากนัก
ทั้งภาครัฐที่ต้องมีนโยบายเชิงรุกมายังสถานศึกษา
ครูในโรงเรียน ซึ่งจะต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ผู้ปกครอง ของทั้งเด็กที่เป็นฝ่ายแกล้ง และเป็นฝ่ายที่ถูกแกล้ง ต้องทำความเข้าใจและปลูกฝังความคิดใหม่ให้ถูกต้อง
เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ฝังรากอยู่ในสังคมมานาน
แถมยังต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายแบบนี้
จึงไม่น่าแปลกว่าจะแก้ไขได้ “ยาก” เสียเหลือเกิน
แล้วคุณล่ะครับ… คุณคิดว่ามันควรจะมีแนวทางแก้ปัญหานี้แบบไหน??
หรือคุณเคยมีประสบการณ์อะไร เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งในโรงเรียนบ้าง??
สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นมาได้นะครับ….
ติดตาม Billionaire Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง
– เริ่มจากช่องทางใหม่ล่าสุด อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionairethai/
– ตามต่อในทวิตเตอร์ https://twitter.com/BillionaireThai
– ถ้าเล่นแต่ไลน์ ก็ส่งบทความให้คุณทุกวันที่ @BillionaireMindset
– ติดตามเพจ Billionaire Mindset – แนวคิดพันล้าน อย่าลืมตั้งค่า See First เพื่อไม่ให้พลาดทุกโพสต์ใหม่นะครับ!!
ที่มา:
www.euro.who.int/__data/assets/pdf_file/0003/163857/Social-determinants-of-health-and-well-being-among-young-people.pdf
qz.com/365799/austria-has-the-most-bullying-in-the-western-world-sweden-has-the-least/
Advertisement