เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จัก Elon Musk และธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของเขา จากทั้งแนวคิดเรื่องต่างๆ ของเขาทั้งในด้านธุรกิจและเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้เราต่างก็ทึ่งกันแล้ว แนวคิดเรื่องโลกในอนาคตของเขามันยิ่งน่าทึ่งไปใหญ่
คราวนี้ผมเลยอยากจะให้ทุกคนได้เรียนรู้ในแนวทาง “การวางแผนธุรกิจในโลกอนาคต” ที่เราอาจจะหาไม่ได้จากตำราเล่มไหนๆ แต่สามารถศึกษาได้อย่างดีจากสิ่งที่เขากำลังทำและแผนงานของเขาที่จะทำให้มันเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
1. โปรเจ็คท์ Machine that makes the Machine
จะเห็นว่าเขาใส่ใจในเรื่องของ AI มาก และภาพที่เขาคิดเอาไว้คือการสร้างโรงงานการผลิตรถยนต์ที่ใช้แต่หุ่นยนต์ในสายการผลิตล้วนๆ นั่นคือการสร้างตัวแทนคนงานที่ได้มาตรฐาน ทำงานได้ตลอดเวลา และเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตรงตามเป้า
ซึ่งแนวคิดโรงงานหุ่นยนต์ล้วนๆ นี่คงต้องพึ่งพาระบบสมองกลอัจฉริยะกว่าที่มีอยู่ทุกวันนี้มาก
2. จึงเป็นที่มาของ OpenAI
OpenAI คือบริษัทพัฒนาระบบอัจฉริยะ ที่มุ้งเน้นไปที่ Artificial Intelligence (AI) โดยเฉพาะ ซึ่งหากสมองกลพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง นอกจากจะมีประโยชน์ด้านการผลิตในโรงงานแล้ว ยังส่งผลถึงเครือข่ายขนส่งของเขาที่จะพูดถึงในข้อต่อๆ ไปด้วย
3. ผลิตรถยนต์ 1,000,000 คันต่อปี
ปัจจุบัน Elon ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ Tesla Model 3 ในเดือนกันยายนไว้ 1,500 คัน ก่อนที่จะต้องทำให้ได้ 20,000 คันภายในเดือนธันวาคม และปีต่อไปในปี 2018 เขาตั้งเป้าเอาไว้ถึง 500,000 คันเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ก่อนที่จะกระโดดเป็น 1 ล้านคันในปี 2020
แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูบ้าระห่ำมาก แต่หากระบบการผลิตอัจฉริยะสามารถออกมาได้ตามที่เขาคาดไว้ มันคงจะเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากเช่นกัน
4. ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ Autopilot อันสมบูรณ์แบบ
เขาตั้งเป้าเอาไว้ว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ Autopilot ในเจเนอเรชั่นที่ 2 จะสามารถวิ่งข้ามประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์ก่อนกลางปี 2018
และนั่นจะเป็นสัญญาณที่ว่าโลกของรถยนต์ขับเคลื่อนได้เองกำลังมาถึงจริงๆ แล้ว
5. Tesla Network คู่แข่งสำคัญของแท็กซี่
แม้ในบางประเทศจะยังมีการตีกันระหว่างแท็กซี่กับ Uber แต่แนวคิดของ Elon คือการสร้างเครือข่ายของรถยนต์ขับเคลื่อนได้เอง
ซึ่งคุณสามารถเรียกให้มารับได้ทุกที่ และไปส่งตามต้องการแบบที่ไม่ต้องใช้คนขับแบบแท็กซี่ในปัจจุบัน คงจะน่าสนใจมากถ้ามันเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
6. Tesla Semi รถบรรทุกอัจฉริยะไร้คนขับ
ลองคิดดูว่าปัจจุบันเจ้าของกิจการต้องเสียเงินจ้างคนขับรถบรรทุกขนส่งของเป็นรายจ่ายมากมายเพียงใด และ Tesla กำลังอยู่ในแผนที่จะเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับภายในปี 2019 หลังจากที่ระบบ Autopilot ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ลองคิดดูสิครับว่าโลกในอนาคตที่ทุกอย่างทำงานอัตโนมัตินั้น เหล่าคนขับรถแท็กซี่ รถบรรทุก รถเมล์ รถไฟ หรือขนส่งมวลชนทั้งหลายอาจจะตกงาน แล้วกลายเป็น “หุ่นยนต์” (หรือระบบ AI) มาแย่งงานพวกนี้ไปหมดก็ได้
7. สร้างโซลาร์ฟาร์ม เพื่อผลิตไฟฟ้าให้รถยนต์
Tesla เข้าซื้อ SolarCity บริษัทผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ (ที่จริงๆ แล้วก็เป็น Elon นี่แหละที่เป็นคนก่อตั้งในทีแรก) และยังวางแผนจะสร้างโซลาร์ฟาร์มไปทั่วโลก นั่นคือการแสดงให้เห็นถึงการมองโลกอนาคตของเขา ที่เขาคิดว่าพลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นสิ่งสำคัญ และผู้กุมกำลังการผลิตไฟฟ้าจะได้เปรียบ
ปัจจุบันรถยนต์ล้วนใช้น้ำมัน และธุรกิจก็จะประกอบไปด้วยบริษัทผลิตรถยนต์ และบริษัทน้ำมันที่แยกจากกัน แต่หากอนาคตที่รถยนต์นั้นใช้ไฟฟ้าทั้งหมด Tesla ก็จะกลายเป็นทั้งบริษัทรถยนต์และบริษัทผลิตไฟฟ้ามาขับเคลื่อนรถยนต์ คือแนวคิดธุรกิจแบบครบวงจรที่เขาวางเอาไว้นั่นเอง และลองคิดภาพว่าในวันนั้นธุรกิจของเขาจะมีมูลค่ามหาศาลเพียงใด
สังเกตได้เลยว่าแนวคิดธุรกิจของเขานั้นจะเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย มีสิ่งหนึ่งเกื้อหนุนอีกสิ่งหนึ่ง จนแทบไม่ต้องพึ่งพาธุรกิจอื่นให้ช่วยเหลือด้วย อย่างเช่น วิจัย AI เองเพื่อนำไปใช้กับธุรกิจรถยนต์ ทำรถยนต์เพื่อนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจขนส่ง หรือกระทั่งผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนรถขึ้นมาเอง
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือการมองโลกจากอดีตเด็กหนุ่มผู้รักในเทคโนโลยี ผู้ใช้ความลุ่มหลงนั้นเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเศรษฐีซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์กว่า 600,000 ล้านบาท และก็ยังไม่หยุดที่จะคิดค้นหรือพัฒนาอะไรใหม่ๆ ให้เท่าทันกับโลกในอนาคตของเขาอยู่เสมอ
เพราะเขารู้ดีว่าธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจริงๆ นั้นจะไม่ใช้เพียงแค่ทำสินค้าเพื่อโลกยุคนี้ แต่คือการสร้างสินค้าที่ทำให้คนยุคนี้รู้สึกว้าว รู้สึกว่ามันเป็นอะไรแปลกใหม่ รู้สึกล้ำยุค แล้วก็ใช้งานได้จริงในโลกอนาคตอีกด้วย!!
Advertisement
