ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาแบบก้าวกระโดด ในยุคที่ตั๋วเครื่องบินโลว์คอสราคาถูกกว่ารถทัวร์ ยุคที่คนรวยแสวงหาการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ตื่นเต้นท้าทายยิ่งขึ้น
นั่นทำให้ “การท่องเที่ยวอวกาศ” เป็นความท้าทายใหม่ของลูกค้ากระเป๋าหนัก
คุณนั่งอยู่เฉยๆ ในยานอวกาศ ผ่านไปอีก 10 วินาทีคุณลอยขึ้นไปด้วยความเร็วมากกว่า 5,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จากนั้นพุ่งสู่ความเร็ว 20,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อหลุดสู่อวกาศ ซึ่งไม่มีเครื่องบินลำไหนทำให้คุณได้
แต่ถ้าคุณอยากจะไปเที่ยวอวกาศ เหล่าบริษัทเทคโนโลยีแนวหน้าก็นำเสนอแพ็คเกจให้คุณได้เลือกช็อปตามรสนิยม
ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับบริการจาก 3 เจ้าดังระดับโลกอย่าง SpaceX, Amazon และ Virgin ว่าคุณจะต้องมีเงินเท่าไร
1. SpaceX
เจ้าของ: Elon Musk
รูปแบบทัวร์: ขึ้นไปยังอวกาศ จากนั้นบินไปทัวร์ดวงจันทร์ แล้วกลับมายังโลก ระยะทางรวม 640,000-800,000 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ Elon เคยบอกไว้ว่าค่าใช้จ่ายไปเที่ยวรอบดวงจันทร์ น่าจะพอๆ กับค่าเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ในราคาเที่ยวละ 1,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดว่าเป็นค่าใช้จ่ายตลอดทริป ที่จะมาหารกับผู้โดยสารอีกทีหนึ่ง
เพราะข้อมูลที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องการพาคนไปดาวอังคาร เขาบอกว่า SpaceX จะพยายามไม่ให้ค่าตั๋วเกินกว่า 10,000,000 บาท
จึงมีการคาดการณ์ว่าทริปดวงจันทร์นี้อาจจะมีราคาที่คนละประมาณ 10,000,000 บาทเช่นกัน
2. Blue Origin (Amazon)
เจ้าของ: Jeff Bezos
รูปแบบทัวร์: พาขึ้นไปยังอวกาศ สัมผัสชีวิตไร้แรงโน้มถ่วง 1 วัน พร้อมถ่ายเซลฟี่กับโลกเพื่อนำไปอวดบนอินสตาแกรม
Jeff Bezos นำกำไรที่ได้จาก Amazon นี้มาทุ่มให้กับบริษัทด้านอวกาศของเขาหนักมาก และมีแผนที่จะเปิดขายตั๋วในปีหน้า
ปัจจุบันบริษัททำการทดสอบขึ้นไปและกลับมาลงจอดสำเร็จ 8 ครั้ง โดยมีการนำหุ่นจำลองมนุษย์ไว้ด้านในด้วย ต่อไปจะเริ่มการทดสอบด้วยคนจริงๆ
คาดว่าจะจำหน่ายตั๋วในราคา 7,500,000-9,000,000 บาทต่อคนต่อทริป
3. Virgin Galactic
เจ้าของ: Richard Branson
รูปแบบทัวร์: หลังจากการเตรียมตัว 3 วัน ผู้ที่ผ่านการทดสอบต่างๆ จะได้ขึ้นไปชมความงดงามของโลกจากอวกาศ
Virgin Galactic ดูจะเป็นบริษัทที่มีความรู้ด้านธุรกิจการขนส่ง-การท่องเที่ยวมากที่สุดในลิสต์นี้ เพราะประสบการณ์จากเจ้าของธุรกิจการบินชื่อดังนั่นเอง
ก่อนหน้านี้พวกเขาเปิดพรีออเดอร์ให้เหล่าเศรษฐที่สนใจซื้อตั๋วได้ในราคา 8,000,000 บาท ซึ่งก็ได้รับความสนใจซื้อตั๋วมากถึง 700 ใบ
บริษัทคาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวบินอวกาศได้ในช่วงปลายปี 2018 เราต้องมาคอยติดตามกันว่าพวกเขาจะสามารถพาคนขึ้นไปเที่ยวได้ตามเป้าหรือไม่
ในยุคหนึ่งที่คนยังอาศัยการเดินทางด้วยเรือและรถยนต์เป็นหลัก เหล่านักธุรกิจหัวไวต่างก็จับจองกันเปิดธุรกิจสายการบิน จนสร้างความร่ำรวย
และในยุคนี้ซึ่งคนส่วนใหญ่เดินทางด้วยเครื่องบิน พวกเขาก็คิดนำหน้าไปอีกขั้นด้วยการไปจับจองธุรกิจเดินทางเที่ยวอวกาศ ที่ในอนาคตอาจจะได้รับความนิยมมากก็ได้
หลายคนอาจจะบอกว่า “ตัวเองไม่มีเงิน” ถ้ามีก็คงไปเปิดธุรกิจแข่งกับพวกเขาแล้ว
แต่ผมอยากก็จะให้มองที่เรื่อง “กระบวนการคิด” มากกว่าเรื่องเงินเช่นกัน
Elon Musk เคยเปิดบริษัททำแผนที่ท่องเที่ยวร่วมกับพี่ชายตั้งแต่ยุค 90 สมัยนั้นเขาก็เป็นแค่เด็กจบใหม่
Jeff Bezos เคยเป็นเด็กเลี้ยงวัวในฟาร์มมาก่อน
Richard Branson ลองผิดลองถูกกับธุรกิจนานาชนิด ก่อนที่ Virgin จะกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก
พวกเขาไม่ได้คิดเพียงแค่ว่า “ไม่มีเงินจะไปทำธุรกิจได้อย่างไร?”
แต่กลับกัน พวกเขาคิดว่า “มีเงินเพียงเท่านี้ จะเริ่มทำอะไรให้เจ๋งกว่าคนอื่นๆ และขยายธุรกิจเดิมให้เติบโตได้อย่างไร?”
ยิ่งในยุคออนไลน์ที่มีโอกาสมากมายให้ไขว่คว้า อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะนั่งเฉยๆ ดูมันผ่านไป หรือลงมือทำตามกำลังความสามารถให้มันดีที่สุด
สุดท้ายจะรุ่งหรือร่วง มันก็อยู่ขึ้นอยู่กับตัวคุณนั่นเอง ^^
Advertisement