บางครั้งเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังระดับโลก อาจมีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า “ความรัก”
ย้อนกลับไปในปี 1937 คุณ Soichiro Honda วิศวกรหนุ่มอนาคตไกลได้ก่อตั้งบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อผลิตแหวนลูกสูบให้กับ Toyota
เขามีฝันอยากจะสร้างรถยนต์มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่เมื่อทำไม่ได้ ก็มาจับธุรกจที่ใกล้เคียงก่อน แล้วธุรกิจของเขาก็ดูจะไปได้สวยซะด้วย
แต่สงครามได้มาดับทุกความฝันให้สูญสิ้น..
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1944 โรงงานของเขาที่ยามาชิตะ ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ถล่มจนเสียหายยับเยิน
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น โรงงานที่อิตาวะ ก็พังทะลายจากเหตุแผ่นดินไหวในปีถัดมาอีก
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ Soichiro ตัดสินใจขายซากของบริษัทเท่าที่กู้ได้ให้กับ Toyota ในราคาประมาณ 130,000 บาทในยุคนั้น
ท่ามกลางชีวิตที่ล้มเหลวหลังสงคราม เขาจึงได้พาครอบครัวย้ายกลับไปอยู่ที่เมืองฮามามัตสึ บ้านเกิดของภรรยาที่ไกลจากโตเกียว
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากพิษเศรษฐกิจหลังสงครามนี้เอง Sachi Honda ภรรยาของ Soichiro ถือเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในการพยุงครอบครัวให้มีความหวัง
หลังจากย้ายบ้านมาอยู่ในที่ห่างไกลเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ดูเหมือนว่าความล้มเหลวจะสร้างรอยแผลขนาดใหญ่ให้กับ Soichiro
เขาลงทุนด้วยเงินประมาณ 3,000 บาท สร้างลานบ่มเหล้าไว้หลังบ้าน และเริ่มกลายเป็นคนติดกินเหล้า เมาหัวราน้ำตลอดหนึ่งปีหลังจากนั้น
จากนักธุรกิจด้านยานยนต์ ในวันนี้หลายคนมองว่าเขาเป็นเพียงชายขี้เหล้าคนหนึ่งเท่านั้น
จุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Soichiro ได้ตระหนักถึงความรักที่ภรรยาของเขามีต่อครอบครัว
ขณะที่เขากำลังพยายามเริ่มธุรกิจสุรา ที่ไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม ทุกๆ วันเธอจะรับหน้าที่ออกไปหาอาหาร หรือรับทำงานเล็กๆ น้อยๆเพื่อหาเลี้ยงทุกคนในบ้าน
แม้ว่าเธอจะไม่ปริปากบ่นอะไร แต่การเดินทางที่ยากลำบากด้วยจักรยานคันเก่าทำให้หญิงสาวต้องเหนื่อยจนแทบหมดแรงในแต่ละวัน
สำหรับ Soichiro การต้องเห็นภรรยาปั่นจักรยานขึ้นลงภูเขา และเหน็ดเหนื่อยจนหลับไปในแต่ละวัน ถือเป็นเรื่องที่น่าปวดใจ
เขาเฝ้าคิดว่าจะทำอะไรเพื่อตอบแทนความรักของภรรยาได้บ้าง จนกระทั่งความคิดหนึ่งได้วิ่งเข้ามาเมื่อมองดูจักรยานคันนั้น
‘หากสามารถสร้างสิ่งที่จะทำให้เธอสบายขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยในการเดินทางแต่ละวัน มันจะดีไหมนะ?’
จากความรู้ด้านวิศวกรรม และเงินทุนที่มีอยู่จากการขายกิจการ Soichiro ได้รวบรวมอุปกรณ์เท่าที่หาได้
ทั้งเศษเหล็กจากกองทัพที่เหลือใช้ เครื่องยนต์สองจังหวะขนาด 50cc และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นส่วนประกอบของรถมอเตอร์ไซค์ Honda คันแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก
เขานำมันไปมอบให้เป็นของขวัญให้กับภรรยา และตั้งชื่อให้ว่า “Bata Bata Bike” ตามเสียงของเครื่องยนต์ขณะวิ่ง “bata bata bata”
เชื่อว่าในเวลานั้น Soichiro อาจยังไม่ทราบว่าเขาเพิ่งสร้างสิ่งที่จะกลายเป็นตำนานของโลกในอนาคต จากความมุ่งมั่นที่จะทำให้ภรรยาเหนื่อยน้อยลงเท่านั้นเอง
จากรถที่ทำให้ภรรยา จุดประกายความฝันในตัวอดีตวิศวกรคนนี้อีกครั้ง และทำให้เขาเริ่มเลิกเหล้า หันกลับมาเอาดีทางด้านยานยนต์
จนมันกลายมาเป็น Model A Type รถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบคันแรกของ Honda และปลุกไฟในตัวของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
ในที่สุดบริษัท Honda Motor ก็ถือกำเนิดขึ้นในปี 1947
หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นโมเดล D-type หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ Honda Dream ออกมาแจ้งเกิดเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงและยอดขายแบบถล่มทะลาย
ส่งให้ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี Honda Motor กลายเป็นบริษัทที่ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ภายหลังพวกเขายังไม่หยุดแค่มอเตอร์ไซค์ ขยายไปทำธุรกิจรถยนต์ตามความฝันวัยเด็กของ Soichiro
และในที่สุด “Honda”กลายเป็นแบรนด์ติดตลาดโลก และมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นจนถึงปัจจุบัน
เฉพาะในปี 2020 ที่ผ่านมา ค่ายสามารถขายรถมอเตอร์ไซค์ไปได้กว่า 19 ล้านคัน
รวมกับรถยนต์อีกประมาณ 4.5 ล้านคัน ทำตลาดในทุกทวีปทั่วโลก
มูลค่าบริษัท Honda ในวันนี้ 1.5 ล้านล้านบาท แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่ระดับ Toyota หรือ Tesla ในตอนนี้ แต่ก็มากกว่าทุกบริษัทเอกชนในประเทศไทยแล้ว
บทเรียนจากช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังสงคราม แต่ความสำเร็จ ที่มีความรักเป็นตัวขับเคลื่อน
ทำให้ในทุกวันนี้ Soichiro Honda กลายเป็นหนึ่งในชาวญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จ
เขาถูกจดจำในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดเจ้าหนึ่ง…
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่
ที่มา:
www.ecossehonda.co.uk/mr-honda-engineered-gift-his-wife
www.blueoclock.com/soichiro-honda-story/
en.wikipedia.org/wiki/Soichiro_Honda
https://www.statista.com/statistics/267277/worldwide-motorcycle-sales-of-honda/
Advertisement
