ญี่ปุ่นนั้นมีความคล้ายคลึงกับไทยอย่างหนึ่ง ตรงที่การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบลง
ทาง IMF ประเมินเอาไว้ว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา GDP ของญี่ปุ่นจะติดลบประมาณ -6% ขณะที่ไทยเราก็จะลดลงไป -7%
(ถึงแม้ถ้านับในทางตัวเลข เศรษฐกิจญี่ปุ่ย 150 ล้านล้านบาท จะมากกว่าไทยถึง 10 เท่า ทำให้การลดลง 6% นั้นเสียหายในทางตัวเลขสูงกว่ามาก)
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นได้สั่งจองวัคซีนจากบริษัทต่างๆ มาแล้ว 290 ล้านโดส สำหรับประชากร 145 ล้านคน แบ่งออกเป็น
– Pfizer จำนวน 120 ล้านโดส
– AstraZeneca จำนวน 120 ล้านโดส
– Moderna จำนวน 50 ล้านโดส
ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ก็มากเกินกว่าจำนวนประชากรของญี่ปุ่นที่มีราวๆ 126 ล้านคนแล้ว
แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นประกาศสั่งจองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer เพิ่มขึ้นอีก 24 ล้านโดส สำหรับประชากร 12 ล้านคน
สาเหตุที่สั่งจาก Pfizer เป็นจำนวนมากนั้น ส่วนหนึ่งมาจากผลการทดลองกับประชากรประมาณ 43,000 คน หลากเชื้อชาติ ในหลายพื้นที่ของโลก แล้วพบว่าได้ผลประมาณ 95%
ลำดับการฉีดวัคซีนนั้น ญี่ปุ่นจะเริ่มให้กับกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และกลุ่มผู้สูงอายุวัย 65 ปีขึ้นไปก่อน จากนั้นส่วนที่เหลือจึงจะมาฉีดให้ประชาชนทั่วไป
แต่กว่าจะได้ฉีดวัคซีนจริงๆ ก็น่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป เพราะตอนนี้วัคซีนของ Pfizer เป็นเพียงตัวเดียวที่กำลังยื่นขอรับรองในญี่ปุ่น และน่าจะเป็นตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติในเดือนหน้า
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อราวๆ 350,000 คน และเสียชีวิตราว 4,800 คน คิดเป็นอัตราส่วน 1.4%
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเริ่มฟื้นตัว บวกขึ้นมาในระดับ 2-3% ได้อีกครั้ง
ในส่วนของเศรษฐกิจไทย น่าจะเริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งในระดับเพิ่มขึ้น 3-4% จากปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นจริงแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่เราต้องติดตามกันต่อไป…
ร่วมแสดงความคิดเห็นที่
ที่มา:
www.japantimes.co.jp/news/2021/01/21/national/science-health/japan-agrees-pfizer-virus-vaccine-72-million-people/
https://asia.nikkei.com/Spotlight/Coronavirus/Coronavirus-Free-to-read/Coronavirus-latest-South-Korea-cases-ease-to-fewest-in-2-months
https://www.blognone.com/node/120731
Advertisement