เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี?? พาไปรู้จัก “โบรกเกอร์” ในตลาดหุ้นไทย [หัดเล่นหุ้น ตอนที่ 3]

มือใหม่เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? โบรกเกอร์แต่ละแห่งต่างกันอย่างไร?

จากที่ก่อนหน้านี้ เราได้ทำคอนเทนต์แนะนำมือใหม่เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดหุ้นไป 2 ตอน สำหรับใครที่ตามไม่ทันลองย้อนกลับไปอ่านกันได้ที่

 

“หุ้น” คืออะไร!? อธิบายให้มือใหม่เข้าใจ ตั้งแต่พื้นฐาน

 

อยากซื้อขายหุ้น อยากเล่นหุ้น จะเริ่มต้นเปิดบัญชีต้องทำยังไงอ่ะ!?

 

มาถึงตอนที่ 3 เราจะมาสรุปขั้นตอนการเปิดบัญชี และความแตกต่างของแต่ละโบรกเกอร์ให้เข้าใจง่ายๆ ครับ

การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้น ไม่ใช่ว่าเราเดินดุ่มๆ ไปซื้อจากตลาดได้เลย แต่จำเป็นจะต้องซื้อผ่านบริษัทนายหน้าที่เรียกว่า “โบรกเกอร์”

 

โบรกเกอร์ทำหน้าที่อะไรบ้าง!?

1. อย่างแรกก็คือทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นให้กับเรา ซึ่งจะต้องทำผ่านระบบของโบรกเกอร์ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการโทรสั่งซื้อหุ้น หรือคีย์ผ่านออนไลน์ก็ตาม

2. หลายๆ แห่งจะมีบทวิเคราะห์ มีการอัปเดตข่าวสารการลงทุน ข่าวสารบริษัทต่างๆ ที่น่าสนใจให้กับลูกค้า ซึ่งจะมากน้อยแตกต่างกันไป

3. คอยแจ้งสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผลของหุ้นที่เราถืออยู่ หรือมีการเทคโอเวอร์กิจการ เป็นต้น

 

ในปัจจุบันจะมีโบรกเกอร์ 32 เจ้า ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเปิดให้เราสามารถซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตได้

ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น ระบบอันทันสมัยที่สุด ค่าคอมมิชชันถูกที่สุด ไม่เก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ หรือมีประวัติบริษัทยาวนานน่าเชื่อถือ

 

ในส่วนของรายชื่อโบรกเกอร์ทั้งหมด และค่าธรรมเนียมของแต่ละเจ้า ตามตารางด้านล่างนี้ครับ..

.

.

.

 

สรุปปิดท้าย.. เกณฑ์การเลือกโบรกเกอร์ที่ดี ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

1. มีประวัติทางธุรกิจที่มั่นคง น่าเชื่อถือ เพราะเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ เราย่อมต้องการบริษัทที่ปกป้องเงินของเราอย่างดีที่สุด

เพราะฉะนั้นบริษัทที่เปิดบริการอย่างยาวนาน (โดยเฉพาะที่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 มาได้) ย่อมมีความได้เปรียบในจุดนี้มากกว่าบริษัทใหม่

 

2. ค่าคอมมิชชันที่ไม่สูงเกินไป โดยเฉพาะรายย่อยที่เงินน้อย ซื้อขายไม่มากนัก ควรเลือกเจ้าที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจะดีกว่า

เราจึงเห็นบริษัทเล็กๆ ที่เปิดมาไม่นานนัก ใช้ค่าคอมมิชชันที่ถูกกว่าเข้าสู้กับเจ้าใหญ่ที่เปิดมานับสิบปี ซึ่งตรงนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีให้กับนักลงทุนเช่นกัน

 

3. มีระบบอันทันสมัย ในจุดนี้เราอาจจะลองเปิดบัญชีสัก 2-3 เจ้า แล้วเข้าไปใช้งานระบบต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบกันได้ว่าระบบออนไลน์ และเครื่องมือต่างๆ ของเจ้าไหนที่น่าสนใจกว่ากัน

 

4. ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว บทวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือ เช่นเดียวกันกับข้อข้างบน หลายคนเลือกใช้วิธีเปิดพอร์ตมากกว่า 1 เจ้า เพื่อรับข่าวสารและบทวิเคราะห์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

อย่างไรก็ตาม เราก็คงไม่สรุปหรือชี้นำว่านักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์เจ้าไหนดี เพราะแต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป อยากจะให้ทุกคนได้ลองคัดสรรและเลือกโบรกเกอร์ด้วยตนเองมากกว่า

เพราะการได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง จะช่วยให้เราก้าวสู่ตลาดหุ้นได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากหลังจากนี้ การเลือกหุ้นด้วยตัวเองนั้น สำคัญยิ่งกว่าการเลือกโบรกเกอร์อีกหลายเท่าเช่นกัน

หวังว่าคอนเทนต์นี้ จะเป็นข้อมูลดีๆ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ทุกๆ คนนะครับ..

 

ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่

 

เนื้อหา: ประณิธิ วงศ์คำจันทร์

ภาพ: ภัทรวลี วงศ์สม

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...