Facebook
Twitter
LINE

สำหรับคนที่อยู่ในวงการเกม หรือเล่นเกมอยู่บ้าง ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อของ Garena บริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์ที่โด่งดังในไทย

เดิมที Garena นั้นเป็นบริษัทเปิดให้บริการเกมออนไลน์ ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ แต่จะเป็นในลักษณะของการซื้อลิขสิทธิ์เกมต่างชาติ เข้ามาทำตลาดในประเทศต่างๆ

ยกตัวอย่างเช่น..

การเปิดให้บริการ League of Legends ซึ่งพัฒนาโดย Riot Games

หรือเกมดังในไทยอย่าง RoV ซึ่งพัฒนาโดย TiMi Studios บริษัทย่อยของ Tencent อีกทีหนึ่ง

แต่การเปิดให้บริการเกมของค่ายอื่น อาจยังไม่ใช่คำตอบที่พวกเขาพอใจนัก จึงต้องก้าวไปอีกขั้นหนึ่งก็คือ “การมีเกมที่บริษัทตัวเองพัฒนาขึ้นมา”

Garena จึงนำประสบการณ์ที่ได้จากการเปิดให้บริการหลากหลายเกม มาสร้างทีมพัฒนาเกมของตนเอง

สิ่งแรกที่พวกเขามองก็คือ เกมแนว Battle Royale ที่ให้ผู้เล่นเข้ามาต่อสู้กันคัดผู้เหลือรอดคนสุดท้าย กำลังมาแรง และน่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว

เพราะฉะนั้นพวกเขาก็จะทำเกมแนวนี้ออกมาสู่ตลาดที่กำลังมาแรงเมื่อปี 2017

โดยมีเป้าหมายที่ว่า นอกจากเกมจะสนุกแล้ว เกมของพวกเขาจะต้องจับต้องได้ง่าย เล่นได้บนสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่น

โดยเฉพาะในกลุ่มเกมเมอร์ชาวอาเซียน ซึ่งเราต้องยอมรับว่าคนในแถบนี้ยังมีรายได้ต่ำกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว โอกาสเข้าถึงสมาร์ทโฟนราคาแพงก็น้อยตามไปด้วย

และหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของค่ายก็คือ Free Fire ซึ่งได้มาเปิดให้บริการในไทยเมื่อปี 2018

แต่นอกจากความเข้าถึงง่ายที่เล่นได้ทุกวัย และเล่นได้บนสมาร์ทโฟนทุกเครื่องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เรามองว่าทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จก็คือ..

 

“กลยุทธ์ Collaboration สู่ความเป็นหนึ่งในทุกตลาด”

เมื่อเป้าหมายหลักของ Free Fire คือการเป็นเกม Battle Royale ที่เข้าถึงคนทั้งโลก นอกจากจะสร้างตัวเกมให้เข้าถึงได้ง่ายแล้ว พวกเขาก็ต้องโปรโมตให้ทุกกลุ่มเข้าถึง

เราจึงได้เห็นเกมดังกล่าว มีส่วนร่วมกับกิจกรรมหรือกระแสที่อยู่ในความสนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

เริ่มจากการคอลแลประดับโลก (Global Collaboration) กับการ์ตูนชื่อดังที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง One Punch Man หรือ Attack on Titan

มาถึงในประเทศไทย ก็มีการคอลแลปกับศิลปิน ทั้งสายแรปเปอร์อย่าง MILLI, Wonderframe ,UrboyTJ, OG-ANIC, Maiyarap และ Lazyloxy

หรือกระทั่งข้ามไปคอลแลปกับศิลปินวงร็อกระดับตำนาน bodyslam

เพื่อให้กลุ่มผู้ติดตามดาราศิลปินคนอื่นๆ และอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเกมมาก่อน ก็จะรับรู้ว่ามีเกมนี้เปิดให้บริการอยู่ และมีโอกาสได้มาลองสัมผัสมากขึ้นนั่นเอง

และล่าสุด ทาง Free Fire ก็ได้ดึงตัวนักแสดงระดับท็อปของไทย “ญาญ่า อุรัสยา” นักแสดงที่จับอะไรก็เป็นกระแส จนถึงขั้นโดนแซวว่าไปแตะอะไรก็ทำให้ราคาขึ้นไปแทบทุกอย่าง

Free Fire x Yaya จะเป็นภารกิจรวมตัวกันในภาพยนตร์ไลฟ์แอคชัน “UNDEFEATED”

ซึ่งอาจจะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการเกมของไทย ที่สามารถสร้างหนังสั้นฟอร์มยักษ์ระดับนี้ได้เป็นเรื่องแรกอีกด้วย

ภาพยนตร์ดังกล่าวจะทำออกมาได้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถติดตามรับชมกันได้ตั้งแต่วันนี้ที่ https://bit.ly/FreeFireUndefeatedTH2

 

สรุปปิดท้าย..

แนวคิดของ Garena ที่ตั้งเป้าจะพัฒนาเกมเป็นของตัวเอง มากกว่าการเป็นเพียงแค่ผู้เปิดให้บริการเกมทั่วๆ ไปเท่านั้น

และถ้ามองในแง่ของตัวเลขแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า Free Fire นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก

ธุรกิจเกมของ Garena สามารถสร้างรายได้มากกว่า 75,000 ล้านบาทในรอบปีที่ผ่านมา

ในไตรมาสล่าสุด รายได้จากส่วนเกม ก็ยังคงเติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 100%

และปัจจุบัน Free Fire คือเกมมือถือซึ่งสามารถสร้างรายได้สูงสุดในอาเซียนและอเมริกาใต้

ขณะที่มูลค่าธุรกิจของ SEA บริษัทแม่ในทุกวันนี้ ก็สูงถึง 4 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับตอนที่พวกเขาเริ่มเปิดให้บริการ Free Fire ก็นับว่าสูงขึ้นมาเกือบ 20 เท่าเลยทีเดียว..!!

 

 

ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่

 

#FreeFireUndefeated #FreeFireYaya #FreeFireUndefeatedxMew #FreeFireUndefeatedxLuke #FreeFireTH

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...