ปัจจุบันนี้ เงินฝากในธนาคารของคุณ ได้รับการคุ้มครองสูงสุด 10 ล้านบาท
แต่ในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า เงินฝากจะได้รับการคุ้มครองแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
เพราะอะไร?? มีที่มาที่ไปอย่างไร?? และจะส่งผลกระทบกับเราแค่ไหน??
เพจแนวคิดพันล้าน จะพาไปรู้จักกับสถาบันคุ้มครองเงินฝากกันก่อน
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ถูกก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2551 ตามแบบอย่างหลายประเทศที่มีการคุ้มครองเงินฝากของประชาชน
เป้าหมายหลักก็ตามชื่อเลยครับ คอยคุ้มครองเงินในบัญชีของเราทั้งหลาย
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คุ้มครองในสถาบันการเงินถึง 35 แห่ง ครอบคลุมธนาคารใหญ่ๆ ทั้งหมดด้วย
คุ้มครองอย่างไร??
สมมติว่าสถาบันการเงินสักแห่งหนึ่ง มีปัญหาต้องปิดตัวลงไป
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ก็การันจ่ายเงินฝากตามที่คุ้มครองให้กับประชาชนภายใน 30 วัน
จากนั้นก็ค่อยเข้าไปเคลียร์จัดการบัญชี ทรัพย์สินต่างๆ ของสถาบันการเงินที่มีปัญหา โดยอาจจะเอามาขายทอดตลาดเพื่อชดเชยอะไรก็ค่อยว่ากันภายหลัง
นั่นหมายความว่า แทนที่จะให้ประชาชนรับความเสี่ยง ไปฟ้องเอากับสถาบันการเงินเอง
สถาบันคุ้มครองก็จะมาเป็นตัวกลาง จ่ายเงินให้ แล้วไปเคลียร์ปัญหาให้แทนนั่นเอง
การคุ้มครองวงเงินที่เปลี่ยนไป…
เมื่อก่อนนั้นมีวงเงินคุ้มครอง 25 ล้านบาท แต่หลังจากการประกาศใช้ “พระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2559”
ทำให้การคุ้มครองเงินฝากจะลดเป็นขั้นๆ ลงไปดังนี้
11 สิงหาคม 2558 – 10 สิงหาคม 2559 คุ้มครองเงินฝาก 25 ล้านบาท
11 สิงหาคม 2559 – 10 สิงหาคม 2561 คุ้มครองเงินฝาก 15 ล้านบาท
11 สิงหาคม 2561 – 10 สิงหาคม 2562 คุ้มครองเงินฝาก 10 ล้านบาท (ปัจจุบัน)
11 สิงหาคม 2562 – 10 สิงหาคม 2563 คุ้มครองเงินฝาก 5 ล้านบาท
หลังจาก 11 สิงหาคม 2563 คุ้มครองเงินฝาก 1 ล้านบาท
ทำไมต้องลดวงเงินคุ้มครอง??
สถาบันคุ้มครองเงินฝากชี้แจงว่า นโยบายของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก คือต้องคุ้มครองให้ได้อย่างน้อย 90% ของประชาชนทั้งหมด
ทีนี้.. คนไทยที่ฝากเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทนั้น มีสัดส่วนถึง 99% ของบัญชีเงินฝากทั้งหมด
แสดงว่าคนไทยส่วนใหญ่ มีบัญชีเงินฝาก แต่เงินในบัญชีก็ไม่ได้สูงอะไรมาก
การกำหนดตัวเลข 25 ล้านบาท 15 ล้านบาท หรือ 10 ล้านบาท นั้นไม่สามารถครอบคลุมคนไทยที่มีเงินฝากได้ตามเป้า
การปรับลดลงมาเหลือ 1 ล้าน จะทำให้คุ้มครองได้ถึง 98% ของประชาชนทั้งระบบด้วย
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา…
แน่นอนว่าการคุ้มครองเงินฝาก จะส่งผลให้ประชาชนมี “ความเชื่อมั่น” ต่อสถาบันการเงินมากขึ้น
อย่างที่เห็นว่าเวลาเกิดวิกฤตหลายๆ ครั้ง สถาบันการเงินต่างๆ ขาดสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน
พอเกิดปัญหาแบบนั้น ประชาชนก็เสียความเชื่อมั่นในสถาบันการเงิน แห่ไปรุมถอนเงินออกมา
ยิ่งแห่ไปถอน ก็ยิ่งทำให้ขาดสภาพคล่องไปอีก และยิ่งจะส่งผลให้วิกฤตของสถาบันการเงินนั้นแย่ลงไป
แต่ในขณะเดียวกัน การคุ้มครองวงเงินฝากที่ลดลง นั่นเป็นการกระตุ้นทางอ้อมให้คนหันมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
หรือไม่ก็ไปนำเงินไปทำธุรกิจ ไปลงทุนในแหล่งอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินเฉยๆ
โดยเฉพาะยอดเงินที่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะไม่มีอะไรมาคุ้มครองอีกแล้วในอนาคตนั่นเอง…
ที่มา:
http://www.dpa.or.th/ewt_news.php?nid=1088
http://www.dpa.or.th/ewt_news.php?nid=1088
http://www2.bot.or.th/statistics/ReportPage.aspx?reportID=188&language=th
www.voicetv.co.th/read/486735
Advertisement